AQUA LAB Store + Design & Solution

AQUA LAB Store + Design & Solution AQUA LAB, where technology, aesthetic and enjoyment in aquarium hobby meet.

AQUA LAB Nature Aquarium Concept Store

Premium Reseller Aqua Design Amano (ADA) & TWINSTAR products including Do!aqua, DOOA, Super BICOM, Power House, Teco, Eheim, Tetra, Hikari, Still Water Aquatic and many more. Nature Aquarium - Marine Aquarium Setup, Maintenance & Revamp.
==
อควาแล็บ เนเจอร์ อควาเรี่ยม คอนเซ็ปต์สโตร์

ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ตู้พรรณไม้น้ำนำเข้า พร้อมให้คำปรึกษา-ดูแล จัดตู้พรรณไม้น้ำ สไตล์ Nature Aquarium และตู้ปลาทะเล

[ ] หลักการเติมสารอาหารใน Nature Aquariumใน Nature Aquarium การสร้างสรรค์ภูมิทัศน์ใต้น้ำที่สวยงามเกิดขึ้นได้จากการเลี้ยง...
31/07/2025

[ ] หลักการเติมสารอาหารใน Nature Aquarium
ใน Nature Aquarium การสร้างสรรค์ภูมิทัศน์ใต้น้ำที่สวยงามเกิดขึ้นได้จากการเลี้ยงไม้น้ำให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์
แม้จะมีการใช้ปุ๋ยน้ำและสารเสริมต่างๆ
เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของไม้น้ำ
แต่หากเติมโดยไม่พิจารณา ไม้น้ำก็จะไม่เติบโตอย่างสมบูรณ์
ดังนั้นเพื่อให้ไม้น้ำเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์
จำเป็นต้องเติมปุ๋ยน้ำในชนิดและปริมาณที่เหมาะสม
ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการระบบตู้ไม้น้ำอย่างถูกวิธี
เช่น วัสดุปลูก ระบบกรอง ระบบไฟ และระบบ CO2 เป็นต้น

หลักการพื้นฐานในการเติมปุ๋ยใน Nature Aquarium คือ
"การเติมสารอาหารที่ขาด จะช่วยให้ไม้น้ำสามารถดูดซึมสารอาหารส่วนเกินได้"
สำหรับวัสดุปลูกไม้น้ำ เราจะใช้ Power Sand และ Aqua Soil
ซึ่งมีสารอาหารพื้นฐานอย่างไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส (P) อยู่แล้ว
นอกจากนี้ ไนโตรเจนและฟอสฟอรัสยังมาจากอาหารปลาและของเสียจากปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
ทำให้มีแนวโน้มที่จะมีปริมาณมากเกินไปในตู้
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดตะไคร่น้ำระบาด
แม้ฟอสฟอรัสเพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำได้
เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของตะไคร่น้ำ
กุญแจสำคัญคือการใช้น้ำยาปรับสภาพน้ำอย่าง Clear Water
เพื่อกำจัดฟอสฟอรัสออกให้ได้มากที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ปุ๋ยน้ำ ADA ในปัจจุบันจึงไม่มีส่วนผสมของฟอสฟอรัส
(ฟอสฟอรัสที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของไม้น้ำจะมาจากวัสดุปลูก)

ในทางตรงกันข้ามกับไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ที่มีแนวโน้มจะมีมากเกินในตู้
สารอาหารที่มักขาดแคลนได้ง่ายคือ โพแทสเซียม (K), ซัลเฟอร์ (S) และเหล็ก (Fe)
รวมถึงธาตุรองต่างๆ เช่น แมกนีเซียม (Mg) และโบรอน (B)
ใน Nature Aquarium สารอาหารเหล่านี้ที่มักขาดแคลนอยู่เสมอ
สารอาหารเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารของไม้น้ำ
และทำให้ไม้น้ำสามารถดูดซึมไนโตรเจนและฟอสฟอรัสที่มีมากเกินในตู้ได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากปุ๋ยน้ำ ADA ในปัจจุบันถูกแบ่งประเภทตามส่วนผสม
การใช้หลักการพื้นฐานคือการผสมผสานชนิดที่เหมาะสมตามสภาพของตู้ไม้น้ำ
== Brightly K / Green Brighty Neutral K ==
ใน Nature Aquarium โพแทสเซียม (K) เป็นสารอาหารตัวแรกที่ถูกให้ความสำคัญในการเติมลงน้ำ
แม้โพแทสเซียมจะเป็นสารอาหารที่พืชหลายชนิดต้องการ
เช่นเดียวกับไนโตรเจน (N.) และฟอสฟอรัส (P) ที่มักมาจากอาหารปลาและของเสีย
ทำให้โพแทสเซียมเป็นปัจจัยจำกัดการเจริญเติบโตของไม้น้ำ เนื่องจากไม่มีแหล่งที่มาที่เพียงพอ

‘Brighty K’ เป็นปุ๋ยน้ำที่พัฒนาขึ้นโดยได้แรงบันดาลใจจากขี้เถ้าไม้ ซึ่งมีโพแทสเซียมสูง
เมื่อเติมลงในตู้ ไม้น้ำจะดูดซึมโพแทสเซียมจากผิวใบได้ทันที
โพแทสเซียมที่ไม้น้ำดูดซึมเข้าไปจะทำหน้าที่เป็นโคเอ็นไซม์ (coenzyme)
ช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาต่างๆ ของเอนไซม์ภายในเซลล์
ดังนั้น หากขาดโพแทสเซียม ไม้น้ำจะไม่สามารถเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

และเนื่องจาก Brighty K มีที่มาจากสารละลายขี้เถ้าไม้ จึงเป็นปุ๋ยน้ำที่มีฤทธิ์เป็นด่าง
ด้วยเหตุนี้ เมื่อเติมลงในตู้ จะทำให้ค่า pH เพิ่มขึ้นชั่วคราว
ซึ่งอาจส่งผลให้ไม้น้ำบางชนิดเจริญเติบโตได้ไม่ดีนัก
โดยเฉพาะไม้ข้อที่ชอบน้ำเป็นกรด
จะได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากปรับปรุงปัญหานี้ ADA จึงได้พัฒนาปุ๋ยน้ำที่เป็นกลางเพื่อควบคุมค่า pH นั่นคือ
‘Green Brighty Neutral K’
ผลลัพธ์ในการให้โพแทสเซียมของทั้งสองชนิดนี้เหมือนกัน
และเนื่องจากไม้น้ำบางชนิด เช่น Hemianthus micranthemoides
ชอบน้ำที่มีสภาพเป็นกลางถึงด่างเล็กน้อย
ในปัจจุบัน Nature Aquarium จึงเลือกใช้ Brightly K และ Green Brighty Neutral K ตามชนิดของไม้น้ำที่เลี้ยง
== Green Brighty Mineral ==
พืชบกดูดซึมสารอาหารและน้ำไปพร้อมกันจากราก
แต่ไม้น้ำที่เติบโตอยู่ใต้น้ำสามารถดูดซึมสารอาหารได้ไม่เพียงแค่จากรากเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงจากผิวใบและลำต้นด้วย
นี่คือลักษณะทางนิเวศวิทยาที่สำคัญที่สุดของไม้น้ำ
และเป็นเหตุผลหลักในการเติมปุ๋ยน้ำลงในตู้
แม้สารอาหารหลักที่จำเป็นสำหรับพืชทุกชนิด
คือไนโตรเจน (N.), ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K)
แต่ก็มีธาตุรองต่างๆ อีกมากมายที่เป็นสารอาหารจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช

ใน Nature Aquarium ธาตุรองบางส่วนจะละลายออกมาจากวัสดุปลูก
เช่น Power Sand และ Aqua Soil
และแร่ธาตุอย่างแคลเซียม (Ca) และแมกนีเซียม (Mg)
ที่มีอยู่ในน้ำประปาก็จะถูกเติมเข้ามาเมื่อมีการเปลี่ยนน้ำ
อย่างไรก็ตาม ชนิดและปริมาณของธาตุรองเหล่านี้อาจไม่สมดุล
ซึ่งอาจทำให้ไม้น้ำเจริญเติบโตได้ไม่สมบูรณ์
ธาตุรองที่ไม้น้ำดูดซึมเข้าไปมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์กรดอะมิโนและโปรตีนในเซลล์
การกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ต่างๆ
และการสร้างโครงสร้างต่างๆ เช่น ผนังเซลล์ของไม้น้ำเอง
ด้วยเหตุนี้ หากขาดธาตุรอง จะพบอาการเติบโตช้า ใบเหลืองซีด (chlorosis) ใบเหลือง (xanthosis) และการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของยอดและใบอ่อน

‘Green Brighty Mineral’ เป็นปุ๋ยน้ำสำหรับเติมธาตุรองต่างๆ
ที่มักขาดแคลนในตู้ไม้น้ำ เช่น ซัลเฟอร์ (S), เหล็ก (Fe), โบรอน (B), แมงกานีส (Mn), สังกะสี (Zn), ทองแดง (Cu) และโมลิบดีนัม (Mo)
เมื่อเติมในปริมาณที่เหมาะสมทุกวันในตู้ที่จัดสภาพแวดล้อมต่างๆ
เช่น วัสดุปลูก แสงสว่าง และระบบ CO2 ได้อย่างเหมาะสม
สีสันของไม้น้ำจะดีขึ้น และสามารถเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์
== Green Brighty Iron ==
ในบรรดาธาตุรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของไม้น้ำให้สมบูรณ์
เหล็ก (Fe) มีความสำคัญเป็นพิเศษ
เหล็กที่ละลายอยู่ในน้ำมีอยู่สองรูปแบบคือ
เหล็กเฟอร์รัส (Fe2+) และ เหล็กเฟอร์ริก (Fe3+)

แต่เหล็กในรูปที่พืชสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้คือ เหล็กเฟอร์รัสเท่านั้น
ดังนั้น พืชหลายชนิดยกเว้นพืชตระกูลหญ้า
จะดูดซึมเหล็กหลังจากเปลี่ยนเหล็กเฟอร์ริกเป็นเหล็กเฟอร์รัสที่ราก
หากเป็นไม้น้ำที่สามารถดูดซึมสารอาหารในน้ำจากผิวใบได้โดยตรง
การให้เหล็กในรูปเฟอร์รัสจะช่วยให้การดูดซึมรวดเร็วขึ้น
เนื่องจากกระบวนการแปลงรูปดังกล่าวสามารถข้ามไปได้
แต่เหล็กเฟอร์รัสจะเปลี่ยนเป็นเหล็กเฟอร์ริกหรือไอร์ออนไฮดรอกไซด์อย่างรวดเร็วในตู้ไม้น้ำ
ซึ่งทำให้ไม้น้ำไม่สามารถดูดซึมเหล็กจากผิวใบได้โดยตรง

‘Green Brighty Iron’ ช่วยให้ไม้น้ำได้รับเหล็กเฟอร์รัสอย่างเสถียร
ประสิทธิภาพการดูดซึมจึงถูกเพิ่มขึ้น
โดยการผสมผสานระหว่างเหล็กคีเลต (chelated iron) และกรด
เหล็กคีเลตคือเหล็กที่ถูกปรับเปลี่ยนทางเคมี (คีเลต)
เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็กเฟอร์รัสรวมตัวกับสารอื่นๆ
และเมื่อเหล็กคีเลตสัมผัสกับผิวใบของไม้น้ำ
เหล็กเฟอร์รัสจะถูกดูดซึมได้ทันที
เนื่องจากเหล็กคีเลตทำงานได้อย่างเสถียรในสภาพน้ำที่เป็นกรด
การเติมพร้อมกับกรดลงในตู้จึงทำให้พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที

เนื่องจากเหล็กที่ไม้น้ำดูดซึมเข้าไปถูกนำไปใช้ในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์
ซึ่งจำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงและกระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอนในคลอโรพลาสต์
หากขาดเหล็ก สีของใบจะซีดจางลง
และการสังเคราะห์ด้วยแสงจะไม่สามารถทำได้อย่างเพียงพอ
และเหล็กยังถูกนำไปใช้ร่วมกับซัลเฟอร์ (S) ในคลอโรพลาสต์
เนื่องจาก Green Brighty Iron มีส่วนผสมของซัลเฟอร์
จึงสามารถเติมพร้อมกับเหล็กได้ในคราวเดียวกัน
รวมถึงเหล็กและซัลเฟอร์มีอยู่ใน Green Brighty Mineral ด้วยก็เช่นกัน
เพราะปริมาณความต้องการจะเพิ่มขึ้นเมื่อไม้น้ำเจริญเติบโตมากขึ้น
จึงควรเติม Green Brighty Mineral ควบคู่ไปกับ Green Brighty Iron
เมื่อไม้น้ำเริ่มเติบโตแข็งแรงหลังจากการตั้งตู้ไปแล้ว 1-2 เดือน

(※Green Brighty Iron ไม่มีส่วนผสมของธาตุรองอื่นๆ ยกเว้นเหล็กและซัลเฟอร์)
== Green Brighty Nitrogen ==
ในบรรดาสารอาหารทั้งหมดที่ไม้น้ำดูดซึม ไนโตรเจน (N.) เป็นที่ต้องการมากที่สุด
และมีความสำคัญไม่เพียงแค่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ของใบและลำต้นเท่านั้น
แต่ยังมีผลในการกระตุ้นการสังเคราะห์ด้วยแสงอีกด้วย

แต่ใน Nature Aquarium เนื่องจากวัสดุปลูกอย่าง Power Sand และ Aqua Soil
มีไนโตรเจนอยู่มาก และยังได้รับจากอาหารปลาและของเสียจากปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอยู่เสมอ จึงไม่ค่อยเกิดภาวะขาดแคลน
แม้จะเติมไนโตรเจนได้ด้วย ‘Green Brighty Nitrogen’
แต่ตะไคร่น้ำ เช่น ตะไคร่เส้นผม (Spirogyra)
มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นหากเติมไนโตรเจนมากเกินกว่าปริมาณที่ไม้น้ำดูดซึม
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าเป็นสารอาหารที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเติม

สถานการณ์ที่ควรเติม Green Brighty Nitrogen คือ
- เมื่อผ่านไปหลายเดือนหลังจากการตั้งตู้ครั้งแรก
- เมื่ออัตราการเติบโตของไม้น้ำช้าลงเนื่องจากไนโตรเจนจากวัสดุปลูกลดลง
- หรือเมื่อไม้น้ำเติบโตไม่ดีเนื่องจากมีจำนวนปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในตู้ต่ำมาก

ไนโตรเจนในรูปที่ไม้น้ำสามารถดูดซึมจากผิวใบได้คือ ยูเรีย (CH4N2O), แอมโมเนียม (NH4+) และไนเตรตไอออน (NO3-)
และเนื่องจากยูเรียสามารถดูดซึมจากผิวใบของพืชได้ง่ายเป็นพิเศษ
จึงเป็นส่วนประกอบหลักของ Green Brighty Nitrogen
ยูเรียที่ไม่ถูกไม้น้ำดูดซึมจะเปลี่ยนเป็นแอมโมเนียมหรือไนเตรตไอออนอย่างรวดเร็ว
ด้วยการทำงานของแบคทีเรียที่เกาะอยู่บนวัสดุกรองในระบบกรอง
แม้แต่ในรูปเหล่านี้ ไม้น้ำก็สามารถดูดซึมได้เช่นกัน
สำหรับการให้ไนโตรเจน Green Brighty Nitrogen
เหมาะสำหรับไม้ข้อและไม้น้ำใบยาวที่ดูดซึมสารอาหารจากผิวใบได้ดี
แต่สำหรับการให้ไนโตรเจนแก่ไม้น้ำที่ดูดซึมจากรากได้ดี
เช่น กลอสโซสติกมา (Glossostigma) และ Cryptocoryne
การใช้ Bottom Plus ซึ่งเป็นปุ๋ยอัดเม็ดแบบแท่งสำหรับฝังลงในวัสดุปลูกจะให้ผลดีกว่า
== ECA Plus / Green Gain Plus ==
ใน Nature Aquarium นอกจากปุ๋ยน้ำ Green Brighty Series ที่ใช้เติมทุกวันแล้ว
ยังมีสารเสริมชนิดน้ำที่ใช้ตามสภาพของไม้น้ำและตู้

‘ECA Plus’ เป็นสารเสริมชนิดน้ำที่ช่วยปรับปรุงอาการใบเหลืองซีด (chlorosis) ของไม้น้ำ
โดยการเพิ่มความเข้มข้นของเหล็กเฟอร์รัส (Fe2+) และซัลเฟอร์ (S) ในน้ำอย่างรวดเร็ว
หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็น Green Brighty Iron ในเวอร์ชันที่มีความเข้มข้นสูง
เหล็กเฟอร์รัสสามารถถูกดูดซึมโดยไม้น้ำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีการเสริมกรดอินทรีย์
และเนื่องจากมีการเสริมแมกนีเซียม (Mg) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของคลอโรฟิลล์
จึงสามารถปรับปรุงอาการใบเหลืองซีดของไม้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ECA Plus มีความเข้มข้นของเหล็กสูงมาก
หากใช้และสะสมไว้เป็นเวลานาน
เหล็กที่เหลืออยู่ในน้ำและไม่ถูกดูดซึมจะกลายเป็นไอร์ออนไฮดรอกไซด์
ส่งผลให้เกิดคราบสีน้ำตาลบนพื้นผิวของ Bio Rio และบนผิวของ Pollen Glass ที่ทำหน้าที่กระจาย CO2
เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว
เมื่ออาการใบเหลืองซีดของไม้น้ำดีขึ้นหลังจากเติม ECA Plus แล้ว
ควรเปลี่ยนไปใช้ Green Brighty Iron ที่มีความเข้มข้นที่เหมาะสมกับการใช้ประจำวันแทน
(และใช้ Green Brighty Mineral ควบคู่กันไป)

‘Green Gain Plus’ เป็นสารเสริมชนิดน้ำที่มีส่วนผสมของไซโตไคนิน
ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชชนิดหนึ่งที่สกัดจากสาหร่ายทะเล
และเบทาอีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง
มีผลในการส่งเสริมการแตกยอดใหม่และการดูดซึมสารอาหาร
ดังนั้น จึงควรเติมลงในตู้เพื่อปรับปรุงสภาพของไม้น้ำเมื่อไม้น้ำประสบภาวะเครียดรุนแรง
เช่น ไม้ข้อหลังจากการตัดแต่ง
เนื่องจากมีการเสริมโบรอน (B) ซึ่งเป็นธาตุรองที่จำเป็นต่อการสร้างยอดใหม่
ทำให้ไม้ข้อสามารถแตกยอดใหม่ได้เร็วขึ้นหลังการตัดแต่ง
และเนื่องจาก Green Gain Plus มีส่วนผสมของสารอินทรีย์จากสาหร่ายทะเลในปริมาณมาก
หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้น้ำขุ่นได้
เมื่อยอดใหม่แตกออกมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว ควรกลับไปใช้ปุ๋ยน้ำปกติเท่านั้น

Source: https://www.adana.co.jp/en/aquajournal/ada_liquid_01/

[ ] สร้างโลกธรรมชาติใต้น้ำด้วยวัสดุปลูกใน Nature Aquariumในโลกของการจัดตู้ไม้น้ำแบบ Nature Aquariumวัสดุปลูกไม่ได้เป็นเพ...
30/07/2025

[ ] สร้างโลกธรรมชาติใต้น้ำด้วยวัสดุปลูกใน Nature Aquarium

ในโลกของการจัดตู้ไม้น้ำแบบ Nature Aquarium
วัสดุปลูกไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่สำหรับปักไม้น้ำเท่านั้น
แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญที่สร้างระบบนิเวศใต้น้ำให้สมบูรณ์

วัสดุปลูกทำหน้าที่หลากหลาย
ตั้งแต่การเป็นที่ยึดเกาะของรากพืช
เป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญ
ไปจนถึงการเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยสลายของเสีย
และทำให้น้ำในตู้ใสสะอาด

แม้ว่าพืชไม้น้ำส่วนใหญ่จะสามารถดูดซึมสารอาหารผ่านทางใบได้
แต่การมีรากที่แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตที่ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพืชในวงศ์ Cryptocoryne
และ กลอสโซสติกมา (Glossostigma)
ซึ่งต้องพึ่งพาการดูดซึมสารอาหารจากทางรากเป็นหลัก
ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้วัสดุปลูกที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ต่อความสำเร็จในการสร้าง Nature Aquarium ที่สวยงามและยั่งยืน
== ส่วนประกอบสำคัญของพื้นปลูกใน Nature Aquarium ==
พื้นฐานสำคัญของการสร้างชั้นวัสดุปลูกใน Nature Aquarium
คือการผสมผสานระหว่าง Power Sand และ Aqua Soil
ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของไม้น้ำโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ยังมีการใช้วัสดุเสริมต่างๆ
เพื่อส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์และสร้างสภาวะที่เหมาะสมในระยะยาว

Bacter 100:
เป็นแหล่งของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ช่วยเร่งกระบวนการตั้งตัวของระบบในชั้นวัสดุปลูก
Clear Super:
อุดมด้วยกรดอินทรีย์ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
Tourmaline BC:
ช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำและส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารของพืช

การทำงานร่วมกันของวัสดุเหล่านี้
จะช่วยสร้างความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันระหว่างรากพืชและจุลินทรีย์
ป้องกันไม่ให้ชั้นวัสดุปลูกอัดแน่นจนเกินไป
และรักษาการถ่ายเทของอากาศที่ดีในระยะยาว
== Power Sand: รากฐานที่แข็งแกร่ง ==
Power Sand คือวัสดุปลูกพื้นฐานที่ใช้ใน Nature Aquarium มาอย่างยาวนาน
ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ
1. เป็นแหล่งสารอาหารให้กับรากพืช
2. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
3. และป้องกันไม่ให้ชั้นวัสดุปลูกอัดแน่นจนเกินไป

Power Sand ประกอบด้วยสารอาหารทั้งในรูปแบบอนินทรีย์ (ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม และธาตุรอง)และอินทรีย์
สารอาหารอนินทรีย์จะถูกรากพืชดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่สารอาหารอินทรีย์จะค่อยๆ ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ใ
ห้กลายเป็นสารอนินทรีย์ที่พืชสามารถนำไปใช้ได้
ซึ่งกระบวนการนี้ยังช่วยส่งเสริมการขยายตัวของจุลินทรีย์ในชั้นวัสดุปลูกอีกด้วย

วัสดุหลักของ Power Sand คือหินพัมมิสที่มีรูพรุนสูง
ช่วยป้องกันไม่ให้ชั้นล่างสุดของวัสดุปลูกแข็งตัวจากการกดทับของแรงดันน้ำ
และยังเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ได้เป็นอย่างดี

Power Sand Series ในปัจจุบันมี 2 สูตรให้เลือกใช้:
- Power Sand Basic: เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
ด้วยปริมาณสารอาหารที่ไม่เข้มข้นจนเกินไป
ช่วยลดปัญหาน้ำขุ่นและตะไคร่น้ำในช่วงแรกของการตั้งตู้
ในสูตรนี้มีการผสม Bacter 100 และ Clear Super มาให้เรียบร้อยแล้ว
- Power Sand Advance:เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และมีระบบกรองชีวภาพที่สมบูรณ์
สูตรนี้มีปริมาณสารอาหารที่สูงกว่า
และมีการเพิ่ม BC Powder (ผงถ่านไม้ไผ่) ซึ่งอุดมไปด้วยฟอสเฟต (PO4)
เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืชไม้น้ำให้ดียิ่งขึ้น
== Aqua Soil - Amazonia Ver.2: ดินเพื่อการเติบโตที่สมบูรณ์ ==
Aqua Soil เป็นวัสดุปลูกหลักที่ใช้ปูทับชั้นของ Power Sand
ผลิตจากดินธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน และปั้นเป็นเม็ด
มีลักษณะเด่นคือเม็ดดินที่อ่อนนุ่ม
ไม่ขัดขวางการเจริญเติบโตของรากพืช
และมีค่าความเป็นกรดอ่อนๆ
ซึ่งช่วยให้พืชดูดซึมสารอาหารได้ง่ายขึ้น

ในบรรดา Aqua Soil Series
Aqua Soil Amazonia ได้รับความนิยมสูงสุด
เนื่องจากผลิตจากดินดำธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด
เช่น ไนโตรเจน N, ฟอสฟอรัส P, โพแทสเซียม K, เหล็ก Fe, ซัลเฟอร์ S, แมกนีเซียม Mg และกรดฮิวมิก
ซึ่งช่วยให้พืชไม้น้ำเจริญเติบโตได้ดีเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ดินดำที่ใช้ผลิต Amazonia นั้น
เป็นทรัพยากรที่หายากและมีจำกัด
ทำให้เกิดปัญหาในการผลิตที่ไม่ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในช่วงแรกของการตั้งตู้ สารอาหารและกรดฮิวมิกอาจละลายออกมาในน้ำมากเกินไป
ทำให้เกิดปัญหาน้ำขุ่นหรือมีสีเหลืองได้

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ Aqua Soil - Amazonia Ver.2 จึงถูกพัฒนาขึ้นมา
โดยใช้ดินดำชนิดใหม่ที่ปล่อยสารอาหารและกรดฮิวมิกออกมาน้อยกว่า
ทำให้ปัญหาน้ำขุ่นหรือเหลืองในช่วงแรกของการตั้งตู้ลดลง
และเพื่อชดเชยสารอาหารที่ลดลง
Amazonia Ver.2 จึงมาพร้อมกับ Amazonia Supplement
ซึ่งเป็นอาหารเสริมในรูปแบบเม็ดที่อุดมไปด้วยกรดฮิวมิกและสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
โดยการโรย Amazonia Supplement ลงบนชั้น Power Sand
ก่อนที่จะปูทับด้วย Amazonia Ver.2
จะช่วยให้พืชไม้น้ำเจริญเติบโตได้ดีเทียบเท่ากับการใช้ Amazonia สูตรดั้งเดิม
== Bottom Plus: เติมพลังให้พื้นปลูก ==
เมื่อเวลาผ่านไป สารอาหารในชั้นวัสดุปลูกจะค่อยๆ ลดลงจากการดูดซึมของพืชและการเปลี่ยนถ่ายน้ำ
ส่งผลให้การเจริญเติบโตของพืชช้าลง
โดยเฉพาะพืชที่ต้องการไนโตรเจนสูงอย่างกลอสโซสติกมา
อาจมีใบที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

Bottom Plus คือปุ๋ยในรูปแบบแท่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้
สามารถใช้เติมลงในชั้นวัสดุปลูกที่มีสารอาหารลดลง
โดยใช้ร่วมกับ Bottom Release เพื่อฝังปุ๋ยลงไปในพื้นปลูก
Bottom Plus มีส่วนประกอบหลักเป็นดินธรรมชาติชนิดเดียวกับที่ใช้ผลิต Aqua Soil
และอุดมไปด้วยไนโตรเจน เหล็ก (Fe) และซัลเฟอร์ (S)
ซึ่งเป็นสารอาหารที่พืชในวงศ์ Cryptocoryne ต้องการเป็นพิเศษ
จึงเหมาะสำหรับการดูแลรักษาระบบในระยะยาว
การใช้ Bottom Plus จะช่วยฟื้นฟูการเจริญเติบโตและสีสันของพืชไม้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Source: https://www.adana.co.jp/en/aquajournal/ada_substrate_01/

💧ให้ปุ๋ยตอนไหนดีที่สุดสำหรับตู้ไม้น้ำ? เช้า เย็น หรือก่อนเปิดไฟ?💡เมื่อวานมีโอกาสได้พาทีมงานจาก The 2Hr Aquarist มาเยี่ยม...
22/05/2025

💧ให้ปุ๋ยตอนไหนดีที่สุดสำหรับตู้ไม้น้ำ? เช้า เย็น หรือก่อนเปิดไฟ?💡

เมื่อวานมีโอกาสได้พาทีมงานจาก The 2Hr Aquarist มาเยี่ยมตลาดที่ไทย
และได้แลกเปลี่ยนความรู้กันสนุกมาก
หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัย และได้คำตอบไม่เหมือนกันในแต่ละกลุ่ม คือคำถามนี้...
"ควรให้ปุ๋ยตอนไหนของวันดีที่สุด?"
หนึ่งในทีมงานของ 2Hr Aquarist ซึ่งมีพื้นฐานด้านเคมีและพฤกษศาสตร์โดยตรง ได้อธิบายแบบเข้าใจง่ายมาก เลยขอสรุปให้ฟังตรงนี้ครับ:
สิ่งที่หลายคนเข้าใจ:
เติมปุ๋ยตอนเช้าก่อนเปิดไฟดีที่สุด? เพราะเมื่อพืชได้สังเคราะห์แสงจะมีสารอาหารเต็มที่

คำตอบจาก 2Hr Aquarist:
ไม่ว่าจะให้ก่อนเปิดไฟ ระหว่างเปิดไฟ หรือหลังจากปิดไฟ...
“ผลแทบไม่ต่างกัน”

สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือ “ความสม่ำเสมอ” ของการให้ปุ๋ย
และการคงระดับแร่ธาตุในน้ำให้ใกล้เคียงกันในแต่ละวัน
แล้วควรทำยังไง?
✅ ถ้าสะดวกเช้าก่อนออกจากบ้าน — ทำตอนนั้น
✅ ถ้าสะดวกเย็นหลังเลิกงาน — ก็ทำตอนนั้น

แค่ทำให้ได้เป็นเวลาเดิมทุกวัน จะดีที่สุดสำหรับต้นไม้ครับ
ทำไมความสม่ำเสมอถึงสำคัญ?
พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวกับสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ปริมาณ CO₂ แสง และแร่ธาตุในน้ำ

ถ้าเราสร้างสภาพแวดล้อมที่ "นิ่ง" และ "เสถียร" พืชจะเจริญเติบโตได้ดี สวยงามอย่างคงที่
ยกตัวอย่าง:
ถ้าให้ปุ๋ยทุกวันช่วงเช้า → แร่ธาตุจะถูกใช้ไปเรื่อย ๆ ตลอดวัน → พอครบ 24 ชั่วโมง เติมใหม่ → วนแบบนี้ = สมดุล → พืชไม่ต้องปรับตัว

แต่ถ้าให้ตอนเย็นวันนี้ พรุ่งนี้ดันมาเติมเช้า → ปริมาณแร่ธาตุวันถัดไปจะ "เกิน" จากวันก่อน = ระบบแปรปรวน → พืชต้องปรับตัว
เหมือนกับคนกินอาหาร:
กินครบ 3 มื้อทุกวัน เวลาคงที่ = สุขภาพดี
แต่ถ้าวันนี้กินบุฟเฟต์มื้อเดียว วันพรุ่งนี้กิน 3 มื้อ หรือบางวันไม่กินเช้า บางวันไม่กินเย็น → ระบบร่างกายปรับตามไม่ทัน = ป่วยง่าย
แล้วถ้าบางวันไม่ว่างจะให้ปุ๋ยตามเวลาเดิมล่ะ?
ทีมงานแนะนำว่า:
❌ ห้ามข้ามวัน
✅ ถ้าเย็นวันนั้นยังมีเวลาอยู่ ให้ใส่ไปเลย ดีกว่ารอถึงวันรุ่งขึ้น
อีกคำถามที่เกี่ยวข้องกันคือ:

แล้วในธรรมชาติมันไม่ได้มีสารอาหารคงที่นะ?
จริงครับ! แต่ในตู้ไม้น้ำของเรา เรากำลังสร้างสภาพแวดล้อม "ที่ดีกว่าธรรมชาติ" ด้วยซ้ำ

- แสงแรงกว่า (ค่า PAR สูงกว่า)
- เติม CO₂ เต็มที่ตลอดเวลาเปิดไฟ
- ระบบกรองเต็มสูบ ทั้งปริมาณ, พื้นที่ผิววัสดุกรอง และ Flowrate แรง
รวมถึงการเติมสารอาหารอย่างเต็มที่
เพราะเราไม่ได้แค่ “เลี้ยงให้รอด” — เราอยากให้มัน “โตสวย” ด้วย
# # # สรุปแบบสั้นที่สุด # # #
เวลาที่ให้ปุ๋ยไม่สำคัญเท่าความสม่ำเสมอ
เลือกเวลาที่คุณสะดวก และทำให้ได้ทุกวันในช่วงเวลาเดิม
พืชจะปรับตัวได้ดีและโตสวยมากกว่าการให้แบบไม่แน่นอน
หากใครมีคำถามเพิ่มเติม อยากรู้เชิงลึก คอมเมนต์ถามไว้ได้เลยครับ
ยินดีแบ่งปันความรู้ให้เต็มที่ครับ!

💧 เปลี่ยนน้ำเท่าไหร่ดี? มากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดี!การเปลี่ยนน้ำเป็นประจำช่วยควบคุมตะไคร่ ลดของเสียในตู้ที่มองไม่เห็นด้วยการ...
16/05/2025

💧 เปลี่ยนน้ำเท่าไหร่ดี? มากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดี!
การเปลี่ยนน้ำเป็นประจำช่วยควบคุมตะไคร่ ลดของเสียในตู้ที่มองไม่เห็นด้วยการเทสค่าน้ำ และช่วยรีเซ็ตแร่ธาตุและสารต่างๆ ที่สะสมในน้ำ 💦

แต่คำถามยอดฮิตคือ "ควรเปลี่ยนน้ำเท่าไหร่ดี?"
มาดูคำแนะนำจากแนวทางของ 2Hr Aquarist กันครับ

🔹 50%-100% เปลี่ยนน้ำเยอะๆ ได้ไหม?
ถ้าน้ำประปาของคุณดี (ค่า pH, KH ใกล้เคียงกับน้ำในตู้ / ไม่มีคลอรีนหนัก / ไม่มีโลหะหนัก / อุณหภูมิใกล้เคียงกัน)
✅ เปลี่ยนน้ำเยอะๆ ได้เลย ไม่ต้องกลัว!
ร้านขายปลาหลายร้านเปลี่ยนน้ำ 100% ทุกวันด้วยซ้ำ เพราะให้อาหารเยอะ ต้องรักษาคุณภาพน้ำตลอดเวลา
👉 น้ำใหม่ช่วยกำจัดของเสีย, สปอร์ตะไคร่ และปรับสมดุลแร่ธาตุได้ดีที่สุด
🧠 อย่าลืม! จุลินทรีย์ส่วนใหญ่ไม่ลอยในน้ำ แต่อยู่ในกรองและพื้นตู้ จึงไม่เสียหายจากการเปลี่ยนน้ำเยอะๆ
ข้อควรระวัง: ปลาหรือกุ้งที่กำลังผสมพันธุ์อาจไวต่อความเปลี่ยนแปลง ต้องดูความเหมาะสมด้วย

🔹 30% ทางสายกลางที่ใช้ได้กับทุกคน
เหมาะกับตู้ที่มีหิน Seiryu หรือ Aquasoil ที่อาจทำให้ค่าความแข็ง (KH) ผันผวนง่าย
ตัวอย่างเช่น น้ำประปา KH 4 แต่ในตู้เหลือ KH 1 จาก Aquasoil ถ้าเปลี่ยน 100% ค่า KH จะพุ่งกลับขึ้น อาจกระทบสิ่งมีชีวิตที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงได้
✅ ดังนั้น เปลี่ยนราวๆ 30% คือจุดปลอดภัยที่ใช้ได้กับแทบทุกกรณี

🔹 10%-20% สำหรับน้ำประปาที่มีปัญหา
หากน้ำประปามีโลหะหนักหรือแอมโมเนีย การเปลี่ยนน้ำเยอะอาจทำให้ระดับสิ่งเหล่านี้พุ่งจนเป็นอันตราย
🌿 ในตู้ที่โตเต็มที่ พืชและวัสดุกรองจะช่วยดูดซับสารเหล่านี้ได้
👉 เปลี่ยนน้อยแต่บ่อยดีกว่า พร้อมดูดเศษสกปรกออกทุกครั้ง เรียกว่า เปลี่ยนน้ำแบบ 2Hr Way
เหมาะมากกับผู้เลี้ยงกุ้งแคระที่ Sensitive หรือสัตว์น้ำที่ไวต่อสภาพแวดล้อม

🔎 สรุป
✅ ถ้าไม่แน่ใจว่าน้ำประปาดีไหม → เปลี่ยนประมาณ 30% กำลังดี
✅ ถ้าน้ำดีแน่ ๆ → เปลี่ยน 50%-70% ได้เต็มที่
✅ ถ้าน้ำมีปัญหา → จำกัดไว้ที่ 10%-20% พร้อมดูแลไม่ให้ของเสียสะสมมาก

อย่าลืมใช้ น้ำยาปรับคลอรีน ทุกครั้ง หากไม่มั่นใจว่าน้ำไม่มีคลอรีนหรือคลอรามีน!

💡 เลี้ยงไม้น้ำและสัตว์น้ำให้งาม ไม่ใช่แค่ใส่ปุ๋ยหรือเปิดไฟแรง — น้ำสะอาด คือตัวแปรสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ครับ

===

💧What’s the Best Time to Dose Fertilizer in a Planted Tank? Morning, Evening, or Before Lights On?💡
Yesterday, I had the chance to take the team from The 2Hr Aquarist on a visit to a local market in Thailand.
We had some great knowledge-sharing conversations along the way.
One of the most frequently asked — and differently answered — questions across communities came up again…
"What’s the best time of day to dose fertilizer?"
One of the 2Hr Aquarist team members, who has a strong background in chemistry and botany, explained it in a very clear and simple way. Here’s a summary:

What many people believe:
Dose in the morning before lights come on, so plants have nutrients ready for photosynthesis.

The 2Hr Aquarist’s take:
Whether you dose before, during, or after the lights are on…
“The difference is negligible.”
The real key is consistency — keeping nutrient levels stable in the water from day to day.
So what should you do?
✅ If mornings before work are easiest — dose then
✅ If evenings after work are better — do it then

Just stick to the same time every day, and your plants will benefit the most.
Why is consistency so important?
Plants are living organisms that constantly adapt to their environment — temperature, CO₂ levels, lighting, and nutrients.
If we provide a stable and consistent environment, plants grow better and look healthier.
Here’s a simple example:
If you dose every morning → nutrients are used throughout the day → 24 hours later, you dose again → stable cycle → no shock to the plants

But if you dose this evening, and the next morning again → nutrient levels build up → inconsistency → plants are forced to adjust
Think of it like human eating habits:
Eating 3 balanced meals at consistent times every day = good health
Eating a buffet once, then 3 meals the next day, skipping breakfast on others = the body gets confused and stressed
What if you miss your regular dosing time?
The team recommends:
❌ Don’t skip a day
✅ If you miss your usual time, dose in the evening instead — better than waiting until the next day
Another related question:
“But in nature, nutrients aren’t stable all the time, right?”

That’s true!
But in a planted tank, we’re creating an environment even better than nature:
- Higher light levels (stronger PAR)
- Constant CO₂ injection
- Powerful filtration — with more media, higher surface area, and strong flow
- And of course, consistent nutrient dosing

Because we’re not just trying to “keep the plants alive” —
We want them to thrive and look beautiful.
# # # In short # # #
The time of day doesn’t matter as much as being consistent.
Pick a time that fits your schedule, and stick to it every day.
Your plants will grow stronger and more stable than with irregular dosing.
If you have more questions or want to dive deeper, feel free to comment below!
Happy to share more insights! 🌿

===

🧪 เลือกควบคุมตะไคร่ในตู้ปลาอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพด้วย APT Fix และ APT Fixlite 💧✨🔹 APT Fix ทำงานอย่างไร?APT Fix มีส...
05/05/2025

🧪 เลือกควบคุมตะไคร่ในตู้ปลาอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพด้วย
APT Fix และ APT Fixlite 💧✨

🔹 APT Fix ทำงานอย่างไร?
APT Fix มีสาร Epoxy aldehydes ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของโปรตีนในเซลล์ของตะไคร่ เมื่อโดนน้ำสารจะออกฤทธิ์และกำจัดตะไคร่อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจะสลายตัวอย่างรวดเร็วด้วยจุลินทรีย์ตามธรรมชาติในตู้ปลา ✅
👉 ไม่ตกค้าง ไม่สะสมในระบบนิเวศของตู้ในระยะยาว

🔹 APT Fixlite ทำงานอย่างไร?
APT Fixlite ใช้กรดคาร์บอกซิลิก (Carboxylic acids) ที่ออกฤทธิ์เฉพาะกับตะไคร่ โดยไม่กระทบต่อพืชน้ำทั่วไป เพราะไม้น้ำมักมีชั้นผิว (cuticle) หนากว่าตะไคร่
👉 สารออกฤทธิ์เร็ว สลายไว ไม่มีสารตกค้างในตู้เช่นกัน

🌿 เลือกตัวไหนดี? FIX หรือ FIXLITE?
ใช้ APT FIXLITE หากคุณมีตะไคร่ขึ้นที่มอส, ริคาเดีย, ริคเซีย, เทป (Vallisneria) หรือพืชที่บอบบาง เช่น ไม้เลี้ยงยาก หรือไม้ชนิดที่เพาะในแล็บ เช่น Hygrophilla chai หรือไม้ด่าง ต่างๆ

💡แต่ถ้าใช้แล้วไม่เห็นผล...
เนื่องจากตะไคร่มีความสามารถในการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดจากสภาวะแวดล้อม หากใช้ APT FIXLITE ไม่ได้ผล ลองเปลี่ยนมาใช้ APT FIX หรือกลับกันอีกทางหนึ่งก็ได้

📌 ใช้อย่างถูกวิธี ปลอดภัยทั้งต่อปลาและไม้น้ำในระยะยาว
พร้อมให้คุณดูแลตู้ให้สะอาดไร้ตะไคร่ และอย่าลืมหาสาเหตุโดยตรงของการเกิดตะไคร่ด้วย 🫧

Source: https://2hraquarist.gorgias.help/en-US/articles/apt-fix--apt-fixlite-155743

🌿💧 เปลี่ยนน้ำในตู้ไม้น้ำ สไตล์ ‘The 2Hr Way’การเปลี่ยนน้ำสัปดาห์ละครั้ง สำคัญกว่าที่คิดโดยเฉพาะในตู้ที่ใช้ไฟแรงหรือปลูกไ...
02/05/2025

🌿💧 เปลี่ยนน้ำในตู้ไม้น้ำ สไตล์ ‘The 2Hr Way’
การเปลี่ยนน้ำสัปดาห์ละครั้ง สำคัญกว่าที่คิด
โดยเฉพาะในตู้ที่ใช้ไฟแรงหรือปลูกไม้น้ำยากๆ
แม้ค่าน้ำอย่างแอมโมเนีย ไนไตรต์ และไนเตรตจะอยู่ในระดับดี
แต่นั่นไม่ได้สะท้อนคุณภาพน้ำทั้งหมด
ในตู้ใหม่หรือเลี้ยงปลาหนาแน่น อาจมีเศษอินทรีย์ที่ยังไม่ย่อยสลาย
ทำให้ปลาและพืชเจ็บป่วยแม้น้ำจะดูใส เพราะ “น้ำใส ≠ สะอาด”

💡 เหตุผลที่ควรเปลี่ยนน้ำประจำ
แม้ค่าน้ำจะดี หรือตู้มีปลาน้อยมีพืชเยอะ แต่การเปลี่ยนน้ำจะช่วย:
* ขจัดของเสียที่มองไม่เห็น
* รีเซ็ตค่า pH, KH, TDS ที่เปลี่ยนแปลงระหว่างสัปดาห์
* ลดสปอร์ตะไคร่
* ป้องกันการสะสมของเสียจากพืชที่ผลัดใบ
โดยเฉพาะในตู้ที่ใช้ไฟแรง อินทรีย์วัตถุสะสมเร็ว
ต้องเปลี่ยนน้ำสม่ำเสมอจึงจะควบคุมได้

🧽 ตู้ใส = การดูแลอย่างสม่ำเสมอ
เคล็ดลับจากนักเลี้ยงมืออาชีพ:
เปลี่ยนน้ำ 30-70% ทุกสัปดาห์ พร้อมดูดเศษตะกอนบนดิน

❓ ดินสกปรกได้อย่างไร?
ดินไม่ได้สกปรกเอง แต่เศษใบ ขี้ปลา และอาหารที่ตกค้างสะสมบนผิวดินต่างหากที่ก่อปัญหา
ทำให้เกิดตะไคร่และรากดูดสารอาหารได้ยาก

📌 วิธีเปลี่ยนน้ำแบบ 2hr Way
1. ใช้ท่อไซฟอนดูดตะกอนบนหน้าดิน
2. ใช้ลูกยางกวนตะกอนขึ้นก่อนดูด
3. ไม่ควรกวนลึกเกินไป — เน้นแค่ผิวหน้า

⚠️ กรณีที่ไม่ควรเปลี่ยนน้ำเยอะๆ
* น้ำประปาคุณภาพไม่ดี (เช่น มีคลอรีนหรือโลหะหนัก) รวมถึงช่วงที่อุณหภูมิน้ำสูงๆ ในหน้าร้อน
* ตู้ยังไม่เซ็ตระบบกรองสมบูรณ์
* ใช้น้ำ RO โดยไม่เติมแร่ธาตุ
แต่ในทุกกรณี ยังควรดูดตะกอนหน้าดิน

🐢 แล้วตู้ Low Tech ล่ะ?
ตู้ที่ไม่มี CO2 แสงน้อย พืชโตช้า ปล่อยของเสียน้อย เปลี่ยนน้ำไม่บ่อยก็ยังดูดี เหมาะกับคนที่ใช้น้ำประปาไม่เสถียร

✅ สรุป
* เปลี่ยนน้ำ + ดูดตะกอน = น้ำใส พืชโตดี
* ความสะอาดคือหัวใจของการปลูกไม้น้ำที่เลี้ยงยากๆ
* เริ่มดูแลจากพื้นตู้ แล้วทุกอย่างจะดีตามมา

Source: https://www.2hraquarist.com/blogs/hot-topics/water-change-the-2hr-way

🌿 ฉันควรใช้ปุ๋ยตัวไหน ระหว่าง APT 1, APT 3 หรือ APT e?เพราะไม้น้ำแต่ละตู้ไม่เหมือนกัน การเลือกปุ๋ยให้เหมาะกับลักษณะของตู...
30/04/2025

🌿 ฉันควรใช้ปุ๋ยตัวไหน ระหว่าง APT 1, APT 3 หรือ APT e?
เพราะไม้น้ำแต่ละตู้ไม่เหมือนกัน การเลือกปุ๋ยให้เหมาะกับลักษณะของตู้ที่เรามี จึงเป็นกุญแจสำคัญในการเลี้ยงไม้น้ำให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว — ทั้งเรื่อง สีของไม้, การควบคุมตะไคร่, และ สุขภาพของระบบ

🔹 APT 3: สมดุล ครบถ้วน ใช้ได้กับตู้ส่วนใหญ่
สูตรนี้ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่าย โดยมีธาตุอาหารหลัก, รอง และจุลธาตุที่พืชต้องการอย่างครบถ้วน เหมาะกับตู้ไม้น้ำทั่วไป ทั้งตู้ที่มีพืชปานกลางไปจนถึงแน่น โดยไม่ต้องเติมธาตุอาหารเพิ่มเติม
ในหลายกรณี APT 3 ยังช่วยให้พืชสีแดง เช่น Rotala rotundifolia, Ludwigia arcuata แสดงสีเข้มขึ้นได้โดยไม่ต้องยุ่งกับการเติมอะไรเพิ่ม
ตู้ในตัวอย่าง (360 ลิตร) ใช้ APT 3 เพียงวันละ 10 มล. ก็ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งเรื่องฟอร์มและสี

🔹 APT 1: สำหรับตู้ที่มีปลาเยอะ และใช้ดินที่อุดมสมบูรณ์
APT 1 มีทุกอย่างเหมือน APT 3 ยกเว้น ไม่มีไนเตรตและฟอสเฟต ทำให้เหมาะกับตู้ที่มีปลาเยอะ ซึ่งของเสียจากปลาและอาหารจะสร้างไนเตรตเองในระบบ
หากค่า NO3 เฉลี่ยในตู้เกิน 5ppm (ควรวัดหลายช่วงเวลาเพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ) การใช้ APT 1 จะช่วยไม่ให้ไนโตรเจนในน้ำสูงเกินไป และลดความเสี่ยงเรื่องตะไคร่

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ APT 1 สามารถ “กดไนเตรต” ลงอย่างจงใจ เพื่อดึงสีแดงเข้มที่สุดจากไม้บางชนิด เช่น Rotala หรือ Ludwigia โดยต้องใช้ควบคู่กับพื้นปลูกที่มีธาตุอาหารสูง เช่นการฝังปุ๋ย APT Jazz เพื่อไม่ให้ไม้หยุดโตในระยะยาวเพราะขาดไนโตรเจนในราก

📌 APT 1 ยังสามารถใช้แทนปุ๋ย ADA ได้โดยตรง เช่น Brighty K Neutral, Green Brighty Mineral, และ Green Brighty Iron

โดยเฉพาะในตู้สไตล์อิวากุมิที่ใช้หินริวโอน/เซนริว การลดไนเตรต/ฟอสเฟตในน้ำจะช่วยลดตะไคร่บนหินได้ดี ในขณะที่ไม้พื้น เช่น กรอสโซ (Glossostigma) หรือ หวีดจิ๋ว (Micranthemum callitrichoides 'cuba') ได้ธาตุอาหารจากดิน

🔹 APT e: สำหรับสายเร่งโต เต็มสปีด ด้วย Estimative Index (EI)
สูตรนี้ให้ธาตุอาหารแบบจัดเต็มเกินความต้องการของพืช เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสารอาหารใดเป็นข้อจำกัดในการเจริญเติบโต พืชจึงโตไวมาก และมักแสดงสีหรือฟอร์มได้ดีสุดขีด

แต่แนวทางนี้มีข้อแม้:
หากระบบไม่เสถียร เช่น CO2 ไม่พอ, น้ำหมุนเวียนไม่ดี, หรือปริมาณพืชในตู้ไม่มากพอ จะเสี่ยงเกิดตะไคร่ได้ง่าย
APT e จึงเหมาะกับมือที่คุมระบบได้ดี มีตู้ที่ปลูกแน่น และต้องการพลังเร่งเต็มพิกัด



🎯 สรุปง่าย ๆ

✅ APT 3 สำหรับมือใหม่-กลาง ใช้ง่าย ครบจบในขวดเดียว

✅ APT 1 สำหรับคนที่มีปลาเยอะ / ใช้ดินสมบูรณ์ / อยากคุมตะไคร่+ดึงสีแดง

✅ APT e สำหรับมือโปรสาย EI ต้องการเร่งสุด แต่ควบคุมระบบได้ดี

🧪 อย่าลืมว่า "ตู้แต่ละใบไม่เหมือนกัน" เลือกให้เหมาะกับระบบของคุณ แล้วคุณจะเห็นไม้น้ำที่โตสวยงาม พร้อมระบบที่เสถียรในระยะยาว

หะมาแว้วช้อปเลย: https://shopee.co.th/aqualabstore?shopCollection=257876004หรือใครสะดวกสวนจตุจักรพรุ่งนี้ช่วงบ่ายของลงที...
30/04/2025

หะมาแว้ว

ช้อปเลย: https://shopee.co.th/aqualabstore?shopCollection=257876004

หรือใครสะดวกสวนจตุจักร
พรุ่งนี้ช่วงบ่ายของลงที่ Atlantis jj market
ส่วน Nature Box เร็วๆ นี้

ร้านค้าออนไลน์ต่าง จะทยอยส่งให้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปครับ

ตู้ FireAqua x AQUA LAB ไซส์ใหม่เข้ามา 2 ขนาดครับW20-C (W20xD20xH20cm / Ultra-Clear 5mm)W30-C (W30xD30xH30cm / Ultra-Cle...
26/04/2025

ตู้ FireAqua x AQUA LAB ไซส์ใหม่เข้ามา 2 ขนาดครับ

W20-C (W20xD20xH20cm / Ultra-Clear 5mm)
W30-C (W30xD30xH30cm / Ultra-Clear 5mm)

ไซส์อื่นๆ W30, W36, W45, W60, W120 มาเติมแล้วทุกขนาด
W90 ของเข้าเดือนหน้าครับ

ทุกขนาดมาพร้อมโฟมยาง EVA ยืนหยุ่นสูง ขนาดพอดีตู้ ไม่ต้องไปตัดเองครับ

🌿 อะไรคือหัวใจของ 2Hr Way?ถ้าคุณอยากมีตู้ไม้น้ำที่“พืชงาม สีสด ตะไคร่น้อย และอยู่ได้ยาวนาน”ทุกอย่างเริ่มต้นจากการวางระบบ...
25/04/2025

🌿 อะไรคือหัวใจของ 2Hr Way?
ถ้าคุณอยากมีตู้ไม้น้ำที่
“พืชงาม สีสด ตะไคร่น้อย และอยู่ได้ยาวนาน”
ทุกอย่างเริ่มต้นจากการวางระบบที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น

✨ แนวคิด 2Hr Way พัฒนาโดย Dennis Wong วางรากฐานการดูแลตู้ไม้น้ำด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วนหลัก:
1️⃣ แสง (Lighting) – ต้องเหมาะสมกับชนิดพืชและความต้องการของระบบ
2️⃣ การหมุนเวียนของน้ำ (Water Circulation) – แม้มองไม่เห็น แต่มีผลโดยตรงต่อการกระจาย CO₂ และธาตุอาหาร
3️⃣ สารอาหารสำหรับพืช (Nutrition) – โดยเฉพาะสูตร Nitrate Limited Capstone™ ที่อยู่ในปุ๋ย APT ซึ่งเน้นการควบคุมไนเตรตให้พอดี ช่วยให้พืชเติบโตอย่างแข็งแรง โดยไม่เปิดช่องให้ตะไคร่ลุกลาม

🌱 การเลือกพรรณไม้ก็สำคัญไม่แพ้กัน – 2Hr Way จะเลือกไม้น้ำจาก 5 ปัจจัย ได้แก่
* ค่าน้ำ (pH, ความกระด้าง เป็นต้น)
* ความต้องการแสง
* ธาตุอาหาร (ซึ่งรวมถึง CO₂)
* พื้นที่ในการปลูก
* ความต้องการในการดูแล

📈 ทุกตู้จะผ่าน 3 ช่วงเวลา:
ระยะตั้งต้น – ระยะพัฒนา – ระยะคงตัว
ซึ่งแต่ละช่วงจะมีแนวทางดูแลต่างกัน
เพื่อให้ตู้สามารถ “เติบโตอย่างยั่งยืน” ไปได้เป็นปีๆ

หากคุณต้องการมากกว่าตู้ที่รอด...
แต่คือตู้ที่ "สวยงามและมั่นคง"
2Hr Way อาจเป็นแนวทางที่คุณกำลังมองหา 💚

[ ] พบกับไลน์ผลิตภัณฑ์จาก The 2Hr Aquarist ที่ครบครันที่สุด ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยน้ำ น้ำยาปรับสภาพ ปุ๋ยฝัง ชุดตั้งตู้ และตัวช...
24/04/2025

[ ] พบกับไลน์ผลิตภัณฑ์จาก The 2Hr Aquarist ที่ครบครันที่สุด ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยน้ำ น้ำยาปรับสภาพ ปุ๋ยฝัง ชุดตั้งตู้ และตัวช่วยสำหรับการควบคุมคุณภาพน้ำในทุกมิติ 🌿💧

🔹 APT 1 – ปุ๋ยสูตรพิเศษสำหรับควบคุมตะไคร่น้ำ พร้อมส่งเสริมการเติบโตของพรรณไม้น้ำในตู้ใหม่ หรือในระบบที่มีของเสียจากปลาอยู่แล้ว

🔹 APT 3 – ปุ๋ยสูตรครบถ้วนเข้มข้น ช่วยให้ไม้น้ำเติบโตได้เต็มศักยภาพ ทั้งไม้สี ไม้ข้อ และไม้ต้องการสูง

🔹 APT e – ปุ๋ยสูตร EI สำหรับการเร่งการเติบโตขั้นสุด ไม่มีข้อจำกัดด้านธาตุอาหาร เหมาะสำหรับผู้ต้องการผลลัพธ์ระดับมืออาชีพ

🔹 APT Pure – น้ำยาปรับสภาพน้ำแบบครบวงจร ขจัดคลอรีน แอมโมเนีย โลหะหนัก พร้อมว่านหางจระเข้ลดความเครียดให้สัตว์น้ำ

🔹 APT Fix – น้ำยากำจัดตะไคร่ทรงพลัง ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้าง เหมาะกับการจัดการตะไคร่หลากหลายประเภท

🔹 APT Fixlite – สูตรอ่อนโยนสำหรับไม้น้ำบอบบาง เช่น มอสหรือริคาเดีย ไม่มีทองแดง และปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิต

🔹 APT Sky – แร่ธาตุปรับสภาพน้ำสำหรับการใช้งานกับ RO/RODI เติมแร่จำเป็นโดยไม่กระทบค่า KH, pH หรือ NPK

🔹 APT Jazz – ปุ๋ยเม็ดแบบแคปซูลที่ฝังในดิน ช่วยกระตุ้นสีแดงของไม้น้ำและเพิ่มความหนาแน่น โดยควบคุมไนเตรตในน้ำ

🔹 APT Start – ชุดบูสต์สำหรับการตั้งตู้ใหม่ เติมแบคทีเรียและธาตุอาหารพื้นฐาน ช่วยให้ระบบนิ่งเร็ว ใช้ได้กับดินไม้น้ำทุกชนิด

ทุกผลิตภัณฑ์จะพร้อมจำหน่ายช่วงปลายสัปดาห์หน้าครับ

ที่อยู่

Bangkok

เวลาทำการ

จันทร์ 10:30 - 18:30
อังคาร 10:30 - 18:30
พุธ 22:30 - 18:30
พฤหัสบดี 10:30 - 18:30
ศุกร์ 10:30 - 18:30
เสาร์ 10:30 - 18:30
อาทิตย์ 10:30 - 18:30

เบอร์โทรศัพท์

+66955285323

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ AQUA LAB Store + Design & Solutionผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง AQUA LAB Store + Design & Solution:

แชร์

Our Story

AQUA LAB Aquarium Store + Design & Solution

อควาแล็บ ถือกำเนิดมาจากกลุ่มคนที่มีความรักและชื่นชอบในการเลี้ยงสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่ไม่ใช่เพียงแค่ปลาเท่านั้น แต่รวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ดำรงชีวิตอยู่ในน้ำและป่าชื้นโดยอาศัยอยู่ในระบบนิเวศน์และพึ่งพาอาศัยกัน (Ecosystem) ซึ่งเรามีความต้องการที่จะนำเสนอการออกแบบที่ถูกต้องด้วยอุปกรณ์ที่มีคุณภาพเพื่อให้เกิดประสบการณ์ทีดีสำหรับผู้เลี้ยงและผู้พบเห็น

AQUARIUM | EQUIPMENT | LIVESTOCK

นำเข้า, ผลิตและจัดจำหน่ายตู้ปลาและอุปกรณ์สำหรับการเลี้ยงสิ่งมีชีวิตใต้น้ำอย่างครบวงจร จากแบรนด์คุณภาพทั่วโลก รวมถึงไปสิ่งมีชีวิตและพรรณไม้น้ำ