Oh my pet shop จำหน่ายอาหาร-ของใช้ สัตว์เลี้ยงทุกชนิด

Oh my pet shop จำหน่ายอาหาร-ของใช้ สัตว์เลี้ยงทุกชนิด Wet nose, Warm heart :)
จำหน่ายอาหารสัตว์และของใช้สัตว์เลี้ยงทุกชนิด

สุขสันต์วันสุนัขโลก 🐶💖ขอบคุณน้องหมาทุกตัวที่เป็นเพื่อนแท้ เติมเต็มรอยยิ้ม และมอบความรักให้เราอย่างไม่มีเงื่อนไขขอให้ทุกบ...
26/08/2025

สุขสันต์วันสุนัขโลก 🐶💖

ขอบคุณน้องหมาทุกตัวที่เป็นเพื่อนแท้ เติมเต็มรอยยิ้ม และมอบความรักให้เราอย่างไม่มีเงื่อนไข
ขอให้ทุกบ้านเต็มไปด้วยเสียงเห่า เสียงหางกระดิก และความสุขนะคะ 🐾

และขอให้เจ้าตูบทุกตัวมีแต่ความสุข ได้กินของอร่อย ได้เล่นสนุก และได้รับกอดแน่น ๆ จากเจ้าของไปทุกๆวันเลยค่ะ 💜
มาหาของอร่อยให้น้องหมาที่ Oh my pet shop จำหน่ายอาหาร-ของใช้ สัตว์เลี้ยงทุกชนิด กันได้เลยค่า

🏠ร้านเปิดให้บริการทุกวัน
⏰10:00-21:00
🚗ทางร้านมีบริการจัดส่ง
(โครงการหมู่บ้านเดอะไนซ์ ลากูน่าวิลล์ อาณาสราและสุรนารีวิลล์)

☎️เบอร์ติดต่อ 063-9591562
Line : ohmypetshop

📍พิกัด: ตรงข้าม Mini Big C หน้าหมู่บ้านสุรนารีย์

https://maps.app.goo.gl/q1QG81hR943ucnTG6?g_st=il

สามารถโทรหรือไลน์มาสอบถามรายการสินค้าได้เลยนะคะ 🙂

💕🫶🏻🐶

#วันสุนัขโลก #ร้านขายอาหารสัตว์ #ร้านขายอาหารสัตว์โคราช

🦎 ใหม่! ขนมไก่นิ่มรูปจิ้งจก 95 บาทเคี้ยวเพลิน อร่อย ปลอดภัย ทั้งหมาและแมว🐶🐱• เนื้อไก่แท้ + น้ำมันปลาทูน่า บำรุงผิวและขน•...
24/07/2025

🦎 ใหม่! ขนมไก่นิ่มรูปจิ้งจก 95 บาท
เคี้ยวเพลิน อร่อย ปลอดภัย ทั้งหมาและแมว
🐶🐱

• เนื้อไก่แท้ + น้ำมันปลาทูน่า บำรุงผิวและขน
• ไม่มีเกลือ ไม่มีสารกันเสีย
• 1 ซองมี 10 ตัว เก็บได้นาน 7 วัน (ไม่ต้องแช่เย็น)
✨ สั่งเลยวันนี้ น้องหมาน้องแมวต้องเลิฟ

มาเลือกที่ร้านได้เลยค่า 🐶🐱💕

🏠ร้านเปิดให้บริการทุกวัน
⏰10:00-21:00
🚗ทางร้านมีบริการจัดส่ง
(โครงการหมู่บ้านเดอะไนซ์ ลากูน่าวิลล์ อาณาสราและสุรนารีวิลล์)

☎️เบอร์ติดต่อ 063-9591562
Line : ohmypetshop

📍พิกัด: ตรงข้าม Mini Big C หน้าหมู่บ้านสุรนารีย์

https://maps.app.goo.gl/q1QG81hR943ucnTG6?g_st=il

สามารถโทรหรือไลน์มาสอบถามรายการสินค้าได้เลยนะคะ 🙂

มาเลือกที่ร้านได้เลยค่า 🐶🐱💕🏠ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ⏰10:00-21:00🚗ทางร้านมีบริการจัดส่ง(โครงการหมู่บ้านเดอะไนซ์ ลากูน่าวิ...
26/06/2025

มาเลือกที่ร้านได้เลยค่า 🐶🐱💕

🏠ร้านเปิดให้บริการทุกวัน
⏰10:00-21:00
🚗ทางร้านมีบริการจัดส่ง
(โครงการหมู่บ้านเดอะไนซ์ ลากูน่าวิลล์ อาณาสราและสุรนารีวิลล์)

☎️เบอร์ติดต่อ 063-9591562
Line : ohmypetshop

📍พิกัด: ตรงข้าม Mini Big C หน้าหมู่บ้านสุรนารีย์

https://maps.app.goo.gl/q1QG81hR943ucnTG6?g_st=il

สามารถโทรหรือไลน์มาสอบถามรายการสินค้าได้เลยนะคะ 🙂

มาเติมวิตามินให้น้องๆ ที่ร้านได้นะคะ🐶🏠ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ⏰10:00-21:00🚗ทางร้านมีบริการจัดส่ง(โครงการหมู่บ้านเดอะไนซ์...
05/06/2025

มาเติมวิตามินให้น้องๆ ที่ร้านได้นะคะ🐶

🏠ร้านเปิดให้บริการทุกวัน
⏰10:00-21:00
🚗ทางร้านมีบริการจัดส่ง
(โครงการหมู่บ้านเดอะไนซ์ ลากูน่าวิลล์ อาณาสราและสุรนารีวิลล์)

☎️เบอร์ติดต่อ 063-9591562
Line : ohmypetshop

📍พิกัด: ตรงข้าม Mini Big C หน้าหมู่บ้านสุรนารีย์

https://maps.app.goo.gl/q1QG81hR943ucnTG6?g_st=il

สามารถโทรหรือไลน์มาสอบถามรายการสินค้าได้เลยนะคะ 🙂

🐶✨ มาแล้ว! VFcore BAR วิตามินบาร์สำหรับสุนัข

เพราะทุกแท่ง…คือ “ความรักที่มอบให้เหมือนคนในครอบครัว”
#แท่งแรกก็ใช่เลย 💛


เวลาที่เราให้เค้ากินอะไรดี ๆ คือเวลาที่เราดูแลเค้าอย่างลึกซึ้ง
VFcore BAR จึงไม่ใช่แค่ขนม…แต่มันคือการดูแลอย่างแท้จริง

มาพร้อม 6 สูตร ที่ออกแบบมาเพื่อ “ลูก ๆ สี่ขา” ของคุณ:

🐕‍🦺 Canine Vitality – เสริมสุขภาพดีรอบด้าน ให้เค้าแข็งแรงทุกวัน
🌿 FIBER – รวมไฟเบอร์ 4 ชนิด บรรเทาท้องผูก เหมาะสำหรับวันขับถ่ายไม่ดี
🧬 BIO – ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดท้องเสีย เสริมภูมิคุ้มกัน
🧴 SK – ดูแลผิวหนังและขนให้เงางาม ไม่คัน ไม่ร่วง
🌙 CR (Calm & Relax) – ช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียดในวันที่เค้ากังวล
🩸 RB (Red Blood) – บำรุงเลือด เสริมธาตุเหล็ก ดูแลการสร้างเม็ดเลือดแดง



ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเล่น ซน หรือพัก…
VFcore BAR คือของว่างสุขภาพดีที่ “เข้าใจความต้องการของน้องหมาเหมือนคนในบ้าน”

เพราะเค้าไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง…แต่คือ “ลูกของเรา” 💙


#สุขภาพดีที่แสนอร่อย


🐶
19/05/2025

🐶

ทำอาหารให้เด็กกินเอง รักหรือทำร้าย
ช่วงนี้การเลี้ยงสัตว์อย่างพิถีพิถัน ดูแลกันยิ่งกว่าลูกในไส้มีให้เห็นกันดาดดื่นจนดูเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ อาจเป็นได้ทั้งเหตุและผลของอัตราการเกิดต่ำของประชากรไทย ผมเป็นหนึ่งในคนที่เลี้ยงเจ้าสี่ขาเป็นลูก เป็นน้อง หรือเป็นสมาชิกในครอบครัว แต่ด้วยความที่เด็กๆไม่ใช่มนุษย์ พี้นฐานทางสรีรวิทยา (การทำงานต่างๆของระบบในร่างกาย) ย่อมไม่เหมือนกับคน การใช้มาตรฐานของคนมากำหนดวิธีการเลี้ยงสุนัขและแมวไปเสียทุกอย่างอาจถูกใจแต่ไม่ถูกต้องในทุกๆเรื่อง
บางทีผลเสียก็อาจไม่ชัดในระยะ short term แต่ใน long term แล้วปัญหาหลายๆอย่างก็จะค่อยๆชัดเจนขึ้น เรื่องยากก็คือเราสื่อสารกับเค้าไม่ได้ตรงๆ แค่เดาใจ เดาจากท่าทางและการแสดงออกซึ่งความรู้สึก เพราะเราพูดกันไม่รู้ภาษาครับ ผมเจอว่าพ่อแม่หลายบ้านเข้าสู่โหมดคิดเอาเอง ทึกทักเอาเอง น้องมีอาการผิดปกติจริงๆแน่ๆแหละแต่พ่อแม่จับแพะชนแกะ บ้างก็มาถูกทางเพียงแต่หลายครั้งบางอย่างก็มโนไปเอง เพราะมีความเชื่อฝังหุ่นแบบผิดๆ (จาก internet) ทำให้ไม่อาจหยุดคิดและปฏิบัติในแนวคิดผิดจนเกิดปัญหา
ที่ผมพบสิ่งที่ผมสังเกตเห็น character ปะป๊าหม่าม๊ามีทั้งสองรูปแบบนะครับ แบบที่เอาทุกอย่าง ลองทุกอย่าง ใครว่าอะไรดีเอาหมด อ่านอะไรมา ใครเล่าเมาท์อะไรให้ฟัง ก็เชื่อแบบโบราณเขาว่า “มงคลตื่นข่าว” อันนี้ก็แอบสงสารเด็กๆมาก เหมือนถูกจับใส่นั่น ใส่นี้ จนไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุอะไรเป็นผลอะไรเป็นผลกันแน่ เพราะปัจจัยเยอะไปหมด อีกแบบคือกลัวไปหมด ไอันั่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่เอา กลัวจะตับพัง กลัวจะไตวาย กลัวจะตกค้างไหม สะสมไหม สุดท้ายเลยไม่เอาอะไรเลย เด็กๆก็ต้องทนปวดทนเจ็บไป อยากบอกหนูปวดก็พูดก็ไม่ได้ ป่ะป๊าหม่าม๊าให้อดทน ไม่เอายาไม่เอาอาหารเสริม หลายท่านในกลุ่มนี้ไม่ใช่ไม่มีสตางค์นะครับ เอาหละ… มัชฌิมาปฏิปทา พระพุทธเจ้าให้ดำเนินทางสายกลางครับ มากไปก็ไม่เหมาะน้อยไปก็ไม่ดี พูดง่ายแต่ทำยาก สายกลางของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกเพราะคิดเอาเองเหมือนเดิม
ขยับมาเรื่องการทำอาหาร พ่อแม่ยุคนี้มีเวลามากขึ้นกว่าก่อนนะครับ ผมละอิจฉา เค้ามีเวลาที่จะมาเตรียมอาหารให้ลูกด้วย บางท่านเล่าให้ผมฟังว่า กับสามีที่บ้านเค้ายังไม่เคยทำอาหารให้กินเลย…แต่ทำให้หมานะจ๊ะ… บางทีก็เอาสูตรมาจากหนังสือบ้าง facebook กูรู บ้าง ChatGPT บ้าง ฯ ต้องเรียนอย่างนี้ครับว่า สูตรอาหารที่ได้มานั้นโดยมากทีเดียวที่จะมีสารอาหารที่ไม่สมดุล ไม่ครบถ้วน ในระยะสั้นๆมองไม่ค่อยออกหรอกนะครับ ต้องกินนานๆจึงจะเห็นผล ซึ่งส่วนมากก็ป่วยจนอาจเกินจะเยียวยาซะแล้ว
การคำนวนปริมาณ calories requirement ของสัตว์แต่ละตัวก็มีความซับซ้อนไม่เป็นเส้นตรงตามน้ำหนักตัว พลังงานที่ต้องการขึ้นกับเพศ และสถานะทางเพศ (ทำหมันหรือยัง) วัย กิจกรรม และลักษณะเฉพาะทางพันธุกรรมของเขา ดังนั้นสัตว์ที่น้ำหนักเท่ากันไม่ได้แปลว่าควรจะกินปริมาณเท่ากันเสมอ calories ที่เขาต้องการอาจต่างกันได้มากหรือน้อยกว่ากันถึง 50% น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้แปลว่า calories จะเพิ่มขึ้นเป็นสมการเส้นตรง ฉะนั้นคูณตรงๆไม่ได้ เช่น 2 กก.กิน 100 กรัม 20 กก.ก็ต้องกิน 1000 กรัม อาจไม่ถูกต้องเทียบบรรยัดไตรยางค์อย่างนี้ไม่ได้นะครับ (รู้อายุเลย)
วิตามินของคนที่จะมาเสริมให้กับอาหารทำเองเพื่อสร้างความสมดุลตามสูตรที่ได้รับการแนะนำก็อาจเป็นอันตรายได้นะครับ โดยเฉพาะกับสุนัขและแมวที่มีขนาดตัวเล็กๆ ง่ายมากที่จะ overdose จนเกิดภาวะความเป็นพิษได้ วิตามินและแร่ธาตุสำหรับสัตว์เป็นการเฉพาะนั้นปัจจุบันอาจหาได้ไม่ยาก แต่ความเหมาะสมในการใช้แบบ long term ก็ไม่มีใครรับประกันว่าจะทดแทนการกินอาหารที่ formulate มาเป็นอย่างดี จนมี nutritional balance ได้หรือเปล่า
อย่างไรก็ตามการทำอาหาร home cooked ดูจะเป็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในรายเป็นอีลูกช่างเลือก (อ่านดีๆ..ไม่ลูกอีช่างเลือกนะ) ชาติก่อนคงเกิดมาเป็นฮ่องเต้ ถึงต้องมีอาหารมาเรียงแถวให้ได้เลือกว่าวันนี้จะนางจะแหลกอาราย.. แต่ใครๆก็ทราบว่าทำอาหารเองให้ลูกโคตรจะเสียเวลา แพง และใช้สมองมาก ต้องไม่ลืมว่ามันต้องเริ่มตั้งแต่ออกจากบ้านไปเดินเลือกวัตถุดิบแล้วครับ ใครๆก็บอกว่าต้อง organic และปลอดสาร ต้องเดินเข้ากูเม่หรือโกเด้นเพลส ส่วนโลตัส บิ๊กซี อย่าหวังไม่ไว้ใจ ยังไม่นับอุปกรณ์ที่ต้องใช้อีกนะครับ ทั้งตาชั่งดิจิตัล เครื่องบด เครื่องปั่น เครื่องสับ ฯ เรียกกันว่าต้องจัด shelf เอาไว้ให้พวกนางไปเลยหนึ่ง shelf เต็มๆ สำหรับเก็บวัตถุดิบและอุปกรณ์จำเป็น
ทีนี้มาดูอาหารสำเร็จรูปกันบ้าง ผมต้องเรียนให้คุณๆทราบเลยว่ามีหลายเกรด ไม่ได้แปลว่าของแพงต้องดีเสมอไปนะบอกเลย คุณต้องเข้าใจว่าต้นทุนมันไม่ได้อยู่แค่ R&D (research and development) เดี๋ยวนี้ผมเห็นบางบริษัททุ่มทุนด้าน marketing มากกว่า R&D เสียอีก สูตรอาหารหรอก็ copy เอาง่ายดี QC (quality control) ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีค่าใช้จ่ายสูงก็ไม่ต้องมีเต็มรูปแบบ ต้องส่งสูตรไปขึ้นทะเบียนก็เป็น paper นะครับ ของจริงจะตรงตาม paper โดยตลอดสายการผลิตไหมก็ไม่มีใครทราบ หน่วยงานที่รับผิดชอบในไทยก็ไม่มีงบมากมายที่จะไปตรวจสอบอาหารในตลาดว่าตรงตามมาตฐานที่ขึ้นทะเบียนไหม ผมถือว่าอันนี้น่ากลัวมาก ที่อเมริกาผมเห็นว่ามีการ recal อาหารบางยี่ห้อเนืองๆ เพราะตรวจสอบแล้วว่าตก ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ยี่ห้อนั้น รุ่นนี้ สูตรนู้น batch นั้น มีเรื่อยๆ ส่วนของไทยเรานี้ผมยังไม่เคยเห็นเลย แปลว่าอาหารบ้านเราทำดีแบบไม่ตกมาตรฐานกันเลยจริงๆหรือไม่ได้ตรวจกันแน่ คิดซิขิดสิ..คิดซิขิดสิ..คิดซิขิดซิ…อาอิตชิตเต่ดึ
ดังนั้นเวลาเลือกอาหารให้ลูก บริษัทอาหารข้ามชาติขนาดใหญ่ที่ brand เค้ามี evidence based แปลว่ามี R&D เค้ามีระบบตรวจสอบคุณภาพตั้งแต่ขั้นวัตถุดิบอาหาร เช่น สุ่มจากรถส่งข้าวโพดแต่ละคัน เข้า lab ตรวจเชื้อราหรือสารพิษตกค้าง ผลิตออกมาแล้ว finishing product ก็สุ่มตรวจในแต่ละ lot ว่าตรงตามมาตรฐานไหม คิดค้นสูตรใหม่ๆก็มีการทดลองในสัตว์ป่วย หรือสัตว์สุขภาพดีจริงๆ ติดตามผลกันเป็นปี ก่อนจะทำออกมาทำขาย บริษัทอาหารเหล่านี้ handle อาหารเป็น lot ใหญ่ๆ ทุนหนาทำให้สามารถดูแลได้องค์ประกอบต่างๆได้อย่างแม่นยำ เรียกว่าคุ้มที่จะทำ system ต่างๆเพื่อตรวจสอบและดำเนินการ
ต่างจากพวก boutique diet company กลุ่มบริษัทฝรั่ง ญี่ปุ่น เกาหลีเหล่านี้ นี้มีทุนน้อยกว่ากลุ่มแรก ไม่มีศูนย์วิจัยอะไรใหญ่โตเป็นของตัวเอง แต่ขายอาหารไม่ถูกนะจ๊ะเผลอๆจะแพงกว่ากลุ่มแรกด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าจะขายดีต้องสร้างจุดขาย maketing เป็นหนึ่งใน strategy เช่น ระบุว่าอาหารเค้าเป็น “grain/ gluten free”, “human grade”, “organic”, “holistic”, “no animal byproduct” “natural bases” คำพูดเหล่านี้จะเห็นได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์บ่อยครั้งครับ ซึ่งเป็นข้อความที่อาจไม่ได้อยู่ในมาตรฐานที่ถูกกำหนดว่าต้องถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ (ยกเว้น organic) แต่อ่านแล้ว ดูดียย์ ดูว่ามาจากธรรมชาติ อาหารอยู่ในมาตรฐานเดียวกับมนุษย์ อย่าว่าแต่คุณๆเลยผมอ่านแล้วยังเคลิ้มเลย รู้ตัวอีกทีหิ้วออกจากร้าน pet shop เรียบร้อย อยากให้ลูกๆลอง 555
กลับมาที่ brand ไทย ต้องยอมรับครับว่าหน่วยงานรัฐบ้านเราไม่ rigid เท่ากับของทางยุโรปและอเมริกา กับการ boom เปรี้ยงป้างที่ผ่านมาของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง Brand ต่างๆก็ทะยอยผลิตอาหารกันออกมาจนเราจะเห็นว่า ทำความรู้จักยี่ห้อใหม่ๆกันแทบไม่ทัน ทุกบริษัทที่ผ่านการจดทะเบียนกับกรมปศุสัตว์เป็นที่เรียบร้อย (ไม่ใช่อ.ย.นะจ๊ะ) โดยมาตรฐานของบ้านเรานั้นไม่เท่าของอเมริกาที่ใช้มาตรฐาน AAFCO (https://www.aafco.org) ของเราไม่ถึงมาตรฐานนั้นครับ แต่อย่างไรก็ตามก็พอจะยอมรับได้คือไม่ได้แย่กว่าน้้นมาก สิ่งที่ผม concern น่าจะเป็นเรื่องของ quality control มากกว่า ถ้าทำได้ตามมาตรฐาน (ไทย) แล้วสามารถคงมาตรฐานนั้นได้ตลอดสายการผลิตหรือมีการสุ่มตรวจวัตถุดิบตั้งต้นว่ามีการปนเปื้อน หรือมีมาตรฐานตรงตามความต้องการไหม มีการสุ่มตรวจ finishing product ว่าผลิตออกมาแล้วมีคุณค่าทางอาหารตรงตามมาตรฐานจริงๆไหม นี่ไม่นับถึงการทดสอบที่บริษัทอาหารขนาดใหญ่ในต่างประเทศเขาทำในสัตว์ทดลอง และติดตามกันเป็นปีๆนะ ที่เขาดูทั้งเลือด ดูทั้งอึ ดูว่าย่อยและดูดซึมไปใช้ได้จริงๆไหมซึ่งทำกันน้อยในบ้านเราแม้ในบริษัทใหญ่ๆ การเลือกอาหาร brand ไทยจึงต้องทำการบ้านหนักๆในการสืบเสาะแสวงหาข้อมูลมากมาย อย่างน้อยก็สูตรที่ได้มานั้นมาแต่หนใด ท่านไหนเป็นผู้ดูแลสูตรให้ ส่วนการผลิตนั้นนะดีและตรงตามที่ควรจะเป็นไหมต้องอาศัยความเชื่อและศรัทธามากกว่าหลักฐานเพราะหาแหล่งที่จะได้มาซึ่งข้อมูลยากสส์ ถาม ChatGPT ก็ไม่รู้ 555
ทีนี้มาถึงอาหารปรุงเองที่พ่อๆแม่ๆอยากทำให้เด็ก มีข้อมูลในต่างประเทศที่พบว่า อาหารปรุงเองมีโอกาสสูงกว่าอาหารสำเร็จรูปที่สัตวเลี้ยงกินแล้วจะเกิดภาวะทุพโภชนาการ พบรายงานอยู่ที่อย่างน้อย 1-3% มาดูข้อมูลในคนที่อเมริกากันมีรายงานอาหารเป็นพิษสูงถึง 48 ล้านรายต่อปี คิดเป็น 1:6 ของประชากร โดยพบอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 3,000 คนต่อปีโดยประมาณ แน่นอนว่าส่วนมากจะติดตามแหล่งที่มายากเพราะคนกินอาหารจากหลายแหล่งในแต่ละมื้อ ไม่เหมือนกับในสัตว์เลี้ยง ดังนั้นหากเราเปลี่ยนมาให้อาหารสัตว์เลี้ยงเป็น home cooked แบบที่คนกิน ปัญหา food-borne จากเดิมที่มีอยู่น้อยก็จะกลับกลายเป็นเยอะขึ้นเหมือนกับในคน สถิติของหมาแมวที่ว่าน้อยนั้นน้อยแค่ไหนกัน ในปี 2023 ที่อเมริกามี FDA confirmed deaths 16 รายกับ 1,705 รายที่มีการ complaint เรื่อง food-borne จากสุนัขและแมวทั้งหมด 163.5 ล้านตัวในอเมริกา (ปี 2024) นั่นหมายถึงมีสัดส่วน 1: 95,800 ห่างชั้นวรรณะกับในคน (1:6) มากโข
สำหรับ BARF ผมเคยเขียนบทความไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน ณ วันนี้ หลักฐานทั้งในแง่บวกและแง่ลบทะยอยกันออกมา ส่วนมากงานวิจัยจะหนักไปทางการตรวจพบการ contamination เสียเป็นส่วนมาก โอกาสในการพบกลุ่มแบคทีเรียก่อโรคทั้งในอุจจาระและอวัยวะภายในเช่น ตับ บ่อยครั้งขึ้นเมื่อเทียบกับอาหารปรุงสุก (ก็ตรงตาม common sense) ส่วนตัวผมเจอเคสที่ทาน BARF หลายบ้านนะครับ บางบ้านก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่พบว่ามีก็เจียนตายอยู่เหมือนกัน รายนั้นเจ้าของพิถีพิถันทำอาหารเอง ไม่รู้ว่า missing ที่ขั้นตอนไหน ลูกเกิด food poisoning จนอาเจียน ท้องเสีย จนชัก เข้า admit ใน ICU อยู่ประมาณ 1 สัปดาห์กว่าจะหลุดออกมาจากเส้นทาง “ทางช้างเผือก” อีกรายเจอปัญหาตับอักเสบเรื้อรัง ค่าตับ 200-300 มาเป็นเดือนๆ สันนิษฐานว่าคงไม่พ้นภาวะ bacterial hepatitis เพราะเพิ่งมีรายงานในอังกฤษว่าพบ pathogenic bacteria ในเนื้อเยื่อตับในกลุ่มสุนัขที่กิน BARF สูงกว่า control อันนี้ไม่ว่าจะเป็น BARF แบบทำเอง (homr prepared) หรือแบบขายสำเร็จ (comercially available) ก็เจอปัญหาเหมือนๆกันนะครับ อีกเรื่องสำคัญคือการขาดสารอาหาร (คล้ายๆกับที่พบใน home cooked) จากการศึกษาพบว่าอาหาร home made นั้นจะพบการเสียสมดุลของสารอาหารหลายชนิดเมื่อให้สัตว์บริโภคในระยะยาว เช่น แคลเซียม-ฟอสฟอรัส ภาวะวิตามินดีและอีสูงกว่าปกติ Taurine ยังคงเป็นประเด็นอยู่อย่างสม่ำเสมอ การ cooked อาจมีส่วนที่ทำให้สูญเสีย taurine ในอาหาร จุดนี้ raw อาจดูโดดเด่นกว่าเพราะไม่ผ่านความร้อน แต่กลับมีรายงานที่พบอาหาร commercial raw diet สำหรับ captive exotic cats ที่มีระดับ taurine ต่ำกว่า 0.1% และพบแมวที่ทาน home prepared raw ที่มีการขาด taurine อยู่ดี ประเด็นไม่ใช่เพียงระดับ taurine ที่เราใส่เข้าไปตามสูตรมีไม่เพียงพอนะครับ คุณๆต้องทำความเข้าใจว่าวัตถุดิบอาหารที่ได้มาเช่นเนื้อสัตว์ ย่อม vary ระดับ taurine ไม่มีทางเท่ากันในทุกๆชิ้นวัตถุดิบ และยังมีเรื่อง dietary interaction ที่เกิดขึ้นในทางเดินอาหาร มันอาจมีบาง ingredient ที่ส่งผลรบกวนการย่อยและการดูดซึมซึ่งกันและกัน สารที่ว่าเราใส่ไปเพียงพอ แต่ย่อยไม่ได้ ดูดซึมไม่ได้ ก็คือไม่พออยู่ดี ซับซ้อนมากเรื่องอาหาร บริษัทอาหารที่มี R&D จึงต้องเอา finishing product ไปวิเคราะห์ต่อครับว่าความสามารถในการย่อยได้ดีไหม การดูดซึมดีไหม เป็นต้น
ส่วนรายงานเชิงบวกก็จะเป็นเรื่อง GI microbiome ที่ดูดีกว่า สุขภาพโดยรวมดีกว่า ข้อมูลส่วนมากยังเป็นระดับ case report หรือ มี strength ที่เบากว่านั้นคืออาจแค่เป็น testimonial สืบค้นคำกล่าวเหล่านี้ก็มักมีที่มาจาก review article บ้าง ที่อาจเป็น observational study ที่อาจดูแค่ลักษณะขนและผิวหนัง ลักษณะอุจจาระ สุขภาพภายนอก และค่าเลือดต่างๆ ซึ่งเป็นเพียงแค่ภาพกว้างๆที่ยังขาดความจำเพาะของ parameters ส่วนหลักฐานในระดับ RCT (randomized control trial study) ถือว่ามีน้อยมากๆครับ
_______________________________________
สรุป
บทความนี้น่าจะช่วยตอบคำถาม ไขข้อข้องใจให้กับคุณๆหลายคนที่สงสัยถึงผลดีผลเสียของการทำงานอาหารให้สุนัขและแมวเอง สำหรับลูกๆผมเอง ผมคิดว่าการให้อาหารสำเร็จรูปยังคงมีความจำเป็นครับหาก concern เรื่อง nutritonal balance ในระยะยาวยังเป็นประเด็นหลัก การทำ home prepared ผมอาจเลือกข้าง home cooked มากว่า raw เพราะกังวลว่าเด็กจะเกิดปัญหาสุขภาพ แต่หากจะให้อาจไม่มีปัญหาทำเองครับเพราะไม่มีเวลา (และฝีมือ) มากขนาดนั้น แต่จะเพียรเลือกสรร commercial based cooked diet ให้ลูกเพื่อเป็น gimmic เล็กๆน้อยๆให้ชีวิตนางได้มีความกระชุ่มกระชวยบ้างก็เท่านั้น อ่ะอ่ะอ่ะ… อย่าถามผมนะว่าผมซึ้อยี่ห้ออะไร ผิดกติกาครับ จ้างให้ก็ไม่บอก…

มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ 🥰
24/04/2025

มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ 🥰

ประกาศรับสมัครพนักงานค่า 🥳
ตำแหน่ง พนักงานแคชเชียร์ “Part time”

หน้าที่ความรับผิดชอบ 🤓
• ให้บริการขายสินค้าภายในร้านและให้คำแนะนำแก่ลูกค้า

คุณสมบัติ
• อายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดเพศ
• วุฒิการศึกษา ม.6 ขึ้นไป
• มีทักษะการสื่อสาร เสนอสินค้าได้และพูดจาสุภาพ
• รักสัตว์ทำงานเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงได้
• สุขภาพแข็งแรง ไม่มีปัญหาสุขภาพ
• ขยัน ซื่อสัตย์ มีวินัย
• ใช้มือถือในการทำงานได้

ทำงาน 3-4วัน ต่อสัปดาห์
เวลาเริ่มงาน 10.00น. – 14.00น.

🏠สถานที่ติดต่อ:
ร้าน โอ้ มาย เพ็ท ช็อป (Oh my pet shop)
555/180 หมู่3 ต.ตลาด อเมือง จ.นครราชสีมา 30310

📩 Inbox เพจร้านได้เลยนะคะ 📮
เบอร์โทรติดต่อ: 092-9926535

📍พิกัด: ตรงข้าม Mini Big C หน้าหมู่บ้านสุรนารีย์

https://maps.app.goo.gl/q1QG81hR943ucnTG6?g_st=il

ระวังให้น้องๆกันด้วยนะคะ 🥹
21/04/2025

ระวังให้น้องๆกันด้วยนะคะ 🥹

ร้อนนี้ต้องระวัง โดยเฉพาะสุนัขตัวใหญ่ ขนหนา หน้าสั้น รวมไปถึงสุนัขที่มีขนสีดำ ☀️

เนื่องจากสุนัขไม่มีต่อมเหงื่อ เพื่อช่วยในการระบายความร้อน ทำให้ในช่วงที่อากาศร้อนถึงร้อนมากแบบนี้ สุนัขอาจมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจนทำให้เจ้าของต้องเป็นกังวลใจ เช่น หงุดหงิดง่าย เบื่ออาหาร เฉื่อยชา นอนเยอะ และไม่กระตือรือร้น แต่ทั้งนี้ก็เพื่อลดการใช้พลังงาน และลดอุณหภูมิภายในร่างกาย

แต่นอกจากพฤติกรรมที่อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้ว อากาศร้อนยังอาจทำให้เกิดปัญหาและอาการด้านสุขภาพที่ควรระวังด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- อาการทางผิวหนัง ผื่นแดง รอยพอง หรือผิวหนังลอก โดยเฉพาะบริเวณที่ขนสั้น ไม่มีขนปกคลุม และบริเวณอุ้งเท้า
- อาการฮีตสโตรก หรือ โรคลมแดด ที่มักจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิร่างกายของสุนัขสูงเกินประมาณ 40-41 องศาเซลเซียส อย่างรวดเร็วจนร่างกายปรับตัวไม่ทัน ทำให้สุนัขมีอาการหอบ ร่างกายขาดน้ำ จนอาจหมดสติและถึงขั้นเสียชีวิตได้

ดังนั้น ในช่วงอากาศร้อน เจ้าของจึงควรดูแล หมั่นสังเกตพฤติกรรม ปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงเวลา หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ กิจกรรมกลางแจ้ง รวมถึงควรมีน้ำสะอาดวางไว้ใกล้ตัวอยู่เสมอด้วยนะคะ

ปุกาส ปุกาสสส ‼️‼️‼️‼️‼️ทางร้าน Oh My Pet ขออนุญาตแจ้งวันหยุดร้านในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ค่ะ 🙇🏻‍♀️🫶🏻จะหยุดวันที่ 12-15 เมษ...
08/04/2025

ปุกาส ปุกาสสส ‼️‼️‼️‼️‼️
ทางร้าน Oh My Pet ขออนุญาตแจ้งวันหยุดร้าน
ในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ค่ะ 🙇🏻‍♀️🫶🏻
จะหยุดวันที่ 12-15 เมษายน 2568
และจะเปิดให้บริการปกติในวันที่ 16 เมษายน 2568 ค่ะ

ในช่วงก่อนร้านจะหยุดนี้ สามารถมาตุนของให้น้องๆได้เลยนะคะ
ทางร้านตุนของสำหรับช่วงก่อนวันหยุด จุกๆ ฉ่ำๆเลยค่า 🐶🐹🐰🐤🐭💕

🏠ร้านเปิดให้บริการทุกวัน
⏰10:00-21:00
🚗ทางร้านมีบริการจัดส่ง
(โครงการหมู่บ้านเดอะไนซ์ ลากูน่าวิลล์ อาณาสราและสุรนารีวิลล์)

☎️เบอร์ติดต่อ 063-9591562
Line : ohmypetshop

📍พิกัด: ตรงข้าม Mini Big C หน้าหมู่บ้านสุรนารีย์

https://maps.app.goo.gl/q1QG81hR943ucnTG6?g_st=il

สามารถโทรหรือไลน์มาสอบถามรายการสินค้าได้เลยนะคะ 🙂

ระวังการอุ้มน้องหมากันด้วยนะคะ 🥹
04/04/2025

ระวังการอุ้มน้องหมากันด้วยนะคะ 🥹

ร้านหมา ≠ ผู้เชี่ยวชาญเสมอไป

ถึงแม้ร้าน grooming, pet hotel หรือคลินิกสัตวแพทย์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะมีมาตรฐานการดูแลสัตว์ดีขึ้นมาก หลายที่มีการอบรมพนักงานให้เข้าใจเรื่องกายภาพสัตว์โดยตรง

แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังมี #บางร้านที่อุ้มหมาผิดวิธี โดยไม่รู้เลยว่าอาจอันตรายแค่ไหน และเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว ทุกคนที่พาน้องหมาไปร้าน น่าจะเคยเจอหรือเห็นมากับตาสักครั้ง

หมาพันธุ์กลางที่ถูกอุ้มขึ้นโต๊ะโดยการจับแค่ใต้รักแร้ ขาหลังลอย ไม่มีการพยุงหรือช้อนก้นเลย ถ้าน้องดิ้นแค่นิดเดียว แรงขยับทั้งหมดจะไปลงที่ #กระดูกสัน หลังเต็มๆ


🔴 ถ้าคิดว่าไม่เป็นไร ลองดูตรงนี้

ร่างกายของหมา โดยเฉพาะพันธุ์กลางถึงใหญ่ มีลำตัวยาว และแนวกระดูกสันหลังที่ต่อเนื่องจากคอถึงโคนหาง ไม่ได้สรีระออกแบบมาให้อยู่ในท่ายืนตรง 2 ขาเหมือนเด็กหรือมนุษย์ การกระจายน้ำหนักเลยต่างกัน โดยเฉพาะหมาบ้านที่กล้ามเนื้อช่วยพยุงไม่เยอะ

ถ้าอุ้มโดยไม่มีการรองรับส่วนล่าง — น้ำหนักตัวทั้งหมดจะไปกดที่ช่วง Lumbosacral Spine (กระดูกเอวถึงก้นกบ) ซึ่งเป็นจุดที่อ่อนแอ และรองรับแรงสะเทือนจากทุกการเคลื่อนไหวอยู่แล้ว


🔴 แค่อุ้มผิดท่าไม่กี่วินาที อาจเป็นจุดเริ่มของปัญหาหลังเรื้อรังทั้งชีวิตได้เลย

แม้แต่น้องหมาที่บ้านเอง #เจ้าของอุ้มอยู่ทุกวัน ถ้าอุ้มแบบจับแค่รักแร้ แล้วปล่อยให้ขาหลังห้อยโดยไม่มีการพยุงก้น การถ่วงน้ำหนักแบบซ้ำๆ วันละหลายครั้ง จะค่อยๆ สะสมจนกลายเป็นอาการเคล็ด เจ็บหลัง หรือแม้แต่หมอนรองกระดูกเคลื่อน

สิ่งเหล่านี้มักไม่แสดงอาการทันที แต่อาจเริ่มจากน้องไม่อยากให้จับหลัง หันมางับเบาๆ เวลาลูบบางจุด หรือเดินก้าวขาไม่ปกติเท่าเดิม


🔴 หมาตัวเล็ก แค่อุ้มแป๊บเดียวจะเป็นอะไรไป?

ประเด็นคือ ไม่ใช่ทุกตัวจะปลอดภัยเพียงเพราะตัวเบา น้ำหนักอาจเบาแค่ 3–4 กิโล แต่แรงที่กระทำต่อตัวเมื่อเทียบกับ #ขนาดกระดูก ก็ยังสูงอยู่ดี

แต่หมาตัวเล็กโดยทั่วไปมีความยืดหยุ่นสูงกว่า และไม่เสี่ยงเท่าหมากลางถึงใหญ่ เว้นแต่จะมีการดิ้น/เกร็ง/ตกหล่น


🔴 แต่อุ้มจัดท่าก็อีกเรื่องนึง

การอุ้มหมาเพื่อ “เคลื่อนย้าย” ต่างจากการ #จัดท่าชั่วคราว

เช่น ในคลินิกสัตวแพทย์ หรือโต๊ะ grooming อาจมีบางจังหวะที่ต้องจับขา ยกตัว หรือพับขาหน้าเพื่อดูแผล ซึ่งถ้าคนทำมีทักษะและควบคุมได้ดี ก็ถือว่าอยู่ในบริบทเฉพาะ

แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้อง “ยกตัวเพื่อเคลื่อนย้าย” — โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่หมาอาจดิ้น หรือต้องยกสูงขึ้นจากพื้น → ควรช้อนก้นเสมอเพื่อกระจายน้ำหนัก

ไม่ว่าหมาตัวเล็กหรือตัวใหญ่ เพราะแม้จะไม่ได้เห็นผลทันที แต่ผลสะสมกับแนวกระดูกสันหลังอาจเกิดขึ้นได้ในระยะยาว


🔴 แล้วควรอุ้มยังไงให้ปลอดภัย?

ให้จำง่ายๆ ว่า หมาไม่มีเอวที่รับแรงแบบคน
การพยุงหลังเขา = การช่วยชีวิตเขาในระยะยาว

อุ้มที่ถูกต้อง:

1️⃣ มือหนึ่งพยุงใต้หน้าอก (รักแร้)
2️⃣ อีกมือรองใต้ก้นหรือสะโพก ให้น้ำหนักตัวกระจาย
3️⃣ พยายามรักษาแนวลำตัวให้ขนานพื้น ไม่ห้อย ไม่แอ่น
4️⃣ ถ้าตัวใหญ่มาก หรือเจ้าของไม่มั่นใจ ควรให้คนสองคนช่วยกันอุ้ม ไม่ใช่ลากขึ้นโต๊ะคนเดียวแบบผิดท่า


🔴 เจ้าของก็มีสิทธิ์ดูแลในจุดที่คนอื่นอาจมองข้าม

วิธีง่ายๆ ที่เจ้าของทำได้ คือ #สังเกตท่าอุ้ม ตอนรับ-ส่งหมา ถ้าพนักงานอุ้มแบบช้อนก้นและพยุงแนวตัวดี ถือว่าโอเค

แต่ถ้าเห็นว่ายกแบบขาลอยตัว หรือดูรีบร้อนจนไม่มั่นคง อย่าเกรงใจที่จะขอให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนร้าน เพราะนั่นคือลูกของเราที่ต้องดูแลเขาอีกตลอดชีวิต


🔴 เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของร้านหมา

แต่เป็นเรื่องที่คนเลี้ยงทุกคนควรรู้ #เพราะหมาหลายตัวเจ็บหลังได้จากการให้คนอื่นอุ้ม โดยเฉพาะคนที่ “ไม่ถนัด” น้องหมาเสี่ยงเจ็บจากท่าทางแค่ไม่กี่วินาที โดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

และอย่าคิดว่าแค่เจ้าของอุ้มอยู่ทุกวันแล้วจะไม่เป็นอะไร
เพราะถ้าอุ้มผิดท่า ต่อให้รักกันแค่ไหน ร่างกายน้องก็ไม่แข็งแรงพอจะรับมันได้ตลอดไป

🔴 ขอย้ำอีกครั้งว่า #ไม่ได้หมายความว่าทุกร้านหมาจะอุ้มผิด

ร้านดีๆ ที่เข้าใจสัตว์ และได้รับการอบรมเรื่องกายภาพก็มีอยู่มากมาย
แต่ในฐานะเจ้าของ เราควรรู้เท่าทันและสังเกตให้ดี เพราะร่างกายของหมา ไม่ได้มีอะไหล่สำรองเหมือนเครื่องจักร

และบางทีเราก็จำเป็นต้องฝากเขาดูแล การเลือกร้านที่ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าที่เราคิด


––––– ขอให้หมาทุกตัวปลอดภัย ––––––


🔵 ข้อมูลเสริมแบบ Dog Geek

‣ การอุ้มผิดท่าแบบห้อยขาหลังโดยไม่รองก้นสามารถเร่ง Degenerative Lumbosacral Disease (DLSS) เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมของโครงสร้างต่างๆ ในบริเวณส่วนล่างของกระดูกสันหลัง (บริเวณเอวต่อกับกระดูกก้นกบ) ซึ่งนำไปสู่การกดทับเส้นประสาทที่อยู่ในบริเวณนั้น หรือทำให้เกิด IVDD (Intervertebral Disc Disease หรือ โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม/เคลื่อน) ได้ง่ายขึ้น

‣ อาการเช่น กลัวให้จับหลัง, ขู่เบาๆ ตอนสัมผัส, เดินผิดปกติ หรือท่าทางแอ่น คือ early signs ของกลุ่มอาการ musculoskeletal pain (อาการปวดระบบกล้ามเนื้อและกระดูก)

‣ การวินิจฉัยมักใช้ clinical exam + x-ray หรือ MRI แต่ต้นเหตุที่มองข้ามบ่อยมากคือ “handling errors” (ความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นจากผู้ฝึกหรือผู้ดูแลสุนัข ในระหว่างการฝึก การจัดการ หรือการปฏิสัมพันธ์กับสุนัข)

ปุกาส ปุกาสสส ‼️‼️‼️‼️‼️ทางร้าน Oh My Pet ขออนุญาตแจ้งวันหยุดร้านในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ค่ะ 🙇🏻‍♀️🫶🏻จะหยุดวันที่ 12-15 เมษ...
04/04/2025

ปุกาส ปุกาสสส ‼️‼️‼️‼️‼️
ทางร้าน Oh My Pet ขออนุญาตแจ้งวันหยุดร้าน
ในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ค่ะ 🙇🏻‍♀️🫶🏻
จะหยุดวันที่ 12-15 เมษายน 2568
และจะเปิดให้บริการปกติในวันที่ 16 เมษายน 2568 ค่ะ

ในช่วงก่อนร้านจะหยุดนี้ สามารถมาตุนของให้น้องๆได้เลยนะคะ
ทางร้านตุนของสำหรับช่วงก่อนวันหยุด จุกๆ ฉ่ำๆเลยค่า 🐶🐹🐰🐤🐭💕

🏠ร้านเปิดให้บริการทุกวัน
⏰10:00-21:00
🚗ทางร้านมีบริการจัดส่ง
(โครงการหมู่บ้านเดอะไนซ์ ลากูน่าวิลล์ อาณาสราและสุรนารีวิลล์)

☎️เบอร์ติดต่อ 063-9591562
Line : ohmypetshop

📍พิกัด: ตรงข้าม Mini Big C หน้าหมู่บ้านสุรนารีย์

https://maps.app.goo.gl/q1QG81hR943ucnTG6?g_st=il

สามารถโทรหรือไลน์มาสอบถามรายการสินค้าได้เลยนะคะ 🙂

ประกาศรับสมัครพนักงานค่า 🥳ตำแหน่ง พนักงานแคชเชียร์ “Part time”หน้าที่ความรับผิดชอบ 🤓• ให้บริการขายสินค้าภายในร้านและให้ค...
19/01/2025

ประกาศรับสมัครพนักงานค่า 🥳
ตำแหน่ง พนักงานแคชเชียร์ “Part time”

หน้าที่ความรับผิดชอบ 🤓
• ให้บริการขายสินค้าภายในร้านและให้คำแนะนำแก่ลูกค้า

คุณสมบัติ
• อายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดเพศ
• วุฒิการศึกษา ม.6 ขึ้นไป
• มีทักษะการสื่อสาร เสนอสินค้าได้และพูดจาสุภาพ
• รักสัตว์ทำงานเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงได้
• สุขภาพแข็งแรง ไม่มีปัญหาสุขภาพ
• ขยัน ซื่อสัตย์ มีวินัย
• ใช้มือถือในการทำงานได้

ทำงาน 3-4วัน ต่อสัปดาห์
เวลาเริ่มงาน 10.00น. – 14.00น.

🏠สถานที่ติดต่อ:
ร้าน โอ้ มาย เพ็ท ช็อป (Oh my pet shop)
555/180 หมู่3 ต.ตลาด อเมือง จ.นครราชสีมา 30310

📩 Inbox เพจร้านได้เลยนะคะ 📮
เบอร์โทรติดต่อ: 092-9926535

📍พิกัด: ตรงข้าม Mini Big C หน้าหมู่บ้านสุรนารีย์

https://maps.app.goo.gl/q1QG81hR943ucnTG6?g_st=il

ที่อยู่

555/180
Nakhon Ratchasima
30310

เวลาทำการ

จันทร์ 10:00 - 20:30
อังคาร 10:00 - 20:30
พุธ 10:00 - 20:30
พฤหัสบดี 10:00 - 20:30
ศุกร์ 10:00 - 20:30
เสาร์ 10:00 - 20:30
อาทิตย์ 10:00 - 20:30

เบอร์โทรศัพท์

+66639591562

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Oh my pet shop จำหน่ายอาหาร-ของใช้ สัตว์เลี้ยงทุกชนิดผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์