NA Music Studio by Kru Note

06/08/2025

🎶 Canon in D: เมื่อนักเชลโลเบื๊อเบื่อ…แต่กีตาร์ร็อกมันส์สุดติ่ง!

ถ้าเคยไปงานแต่ง งานจบการศึกษา หรือนั่งจิบกาแฟฟังเพลย์ลิสต์ “Classical Chill” คุณน่าจะเคยได้ยินเสียงไวโอลินนุ่ม ๆ ไล่กันวนไปมาไม่รู้จบ นั่นแหละคือ Canon in D major ของ Johann Pachelbel หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า Canon in D

Canon ในดนตรีไม่ใช่กล้องถ่ายรูปนะครับ แต่หมายถึง

“ทำนองที่ไล่ตามกันเป็นลูกโซ่”

คือเสียงแรกเล่นก่อน เสียงอื่น ๆ เล่นตามแบบเป๊ะ ๆ เหมือนเพลงเด็ก “Are You Sleeping” หรือ “Row Row Row Your Boat” ที่ร้องไล่กันเป็นรอบ ๆ

ส่วน D major คือคีย์ของเพลงนี้ มีโน้ตหลักคือ D – F # – A (คอร์ด D) ให้ฟีลสดใส อบอุ่น เหมาะกับบรรยากาศงานแต่งมาก ๆ
ต่างจากเวอร์ชัน Canon in C ที่โผล่ในหนัง My Sassy Girl ที่ย่อคีย์ลงมาให้ง่ายขึ้นบนเปียโน (โน้ตหลัก C – E – G)
และถ้าคุณเผลอเอา Canon in D กับ Canon in C มาเล่นพร้อมกัน…

ฟังเหมือนมีคนร้องเพี้ยนโผล่มาแจมเลยทีเดียว! 😆

⸻

🔄 สูตรความติดหูใน 8 คอร์ดวนลูป

หนึ่งในเหตุผลที่เพลงนี้ดังแบบอมตะคือ เบสไลน์กับคอร์ดที่วนซ้ำ ๆ แค่ 8 คอร์ด

D – A – Bm – F – G – D – G – A

วนไปเรื่อย ๆ เหมือนการสะกดจิตแบบอ่อนโยน
นี่แหละที่ทำให้เพลงนี้ติดหูไม่รู้จบ แถมยังเป็นแรงบันดาลใจให้เพลงป็อปยุคใหม่ อย่าง “Memories” – Maroon 5 อีกด้วย

⸻

🎻 นักเชลโลเบื๊อเบื่อ แต่กีตาร์ร็อกมันส์สุด!

ความลับอีกข้อคือ… ต้นฉบับเมื่อ 300 ปีก่อน
Pachelbel แต่งไว้สำหรับ ไวโอลิน 3 ตัว เล่นไล่กัน
มี basso continuo (เชลโล หรือเครื่องเสียงต่ำ + ฮาร์ปซิคอร์ดหรือคีย์บอร์ด) คอยเล่นโน้ตยาว ๆ ค้ำจังหวะ

ผลลัพธ์คือ…
• ไวโอลิน: วิ่งโน้ตสนุกโชว์สกิล
• เชลโล: นั่งเล่น “ตึ๊ง…ตึ๊ง…ตึ๊ง…” วนไป 8 ตัวซ้ำ ๆ
ไม่แปลกที่นักเชลโลบางคนจะทำหน้าเบื่อ ๆ เหมือนถูกลงโทษทางดนตรี 😅

แต่พอมีคนเอา Canon in D ไปแปลงเป็น เวอร์ชันกีตาร์ร็อก

เชลโลเบื๊อเบื่อกลายเป็นขำ ๆ ทันที เพราะกีตาร์มันส์จัด จนเหมือนหลุดไปเล่นคอนเสิร์ตร็อก!

⸻

🎵 ฟัง Canon in D แบบไม่เหมือนใคร ในคอนเสิร์ตนี้!

ถ้าอยากฟัง Canon in D แบบสด ๆ
เชิญมาฟังที่คอนเสิร์ต “The Sound of Cellos : KOREA x THAILAND Concert Project Vol. 1”

พบกับการบรรเลงด้วย เชลโล 4 ตัวล้วน ๆ
โดยนักเชลโลดาวรุ่ง 2 ท่านจากเกาหลี และนักเชลโลชาวไทย 2 ท่าน
พร้อมโปรแกรมสุดเพลิน ตั้งแต่
• บทเพลงคลาสสิกฟังง่าย
• เพลงป๊อปร่วมสมัย
• เพลงไทยและเพลงพื้นบ้านเกาหลี

มาดูกันว่าเชลโลไม่ได้มีดีแค่เล่นเบสใน Canon in D แต่ยังร้องทำนองหลัก สร้างจังหวะ และมันส์ได้จนคุณยิ้มไม่หุบ!

รายละเอียดคอนเสิร์ตอยู่ในคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้เลยครับ 🎶👇

06/08/2025

🎶 เมื่อสองมหาอำนาจที่เคยแข่งขันกันเพื่อชิงความเป็นผู้นำด้านอวกาศ จะกลับมาประชันกันอีกครั้งบนเวทีดนตรีคลาสสิกอย่าง Tchaikovsky Competition — การแข่งขันที่เริ่มต้นเพื่อโชว์พลังของโซเวียต แต่กลับเต็มไปด้วยบทพลิกผันทั้งด้านดนตรีและการเมือง จนกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของโลกดนตรีคลาสสิกยุคใหม่

และในขณะที่เวทีใหญ่ระดับโลกต้องเผชิญกับความปั่นป่วนและการเมือง เวทีในเมืองไทยอย่าง Thailand Strings Competition กำลังสร้างความคึกคักให้กับวงการดนตรีอย่างน่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน

#เรียนดนตรีกับครูโน้ต

https://openlink.co/nukanongmusicstudio

🎶 สนใจเรียนดนตรีกับครูโน้ต Inbox ได้เลย!
📲 Follow us on Facebook, TikTok, YouTube & IG: Nuk Anong Music Studio

25/07/2025

🎻✨ เมื่อเสียงเชลโลจากสองวัฒนธรรม โคจรมาพบกันบนเวทีเดียว!
สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเสียงเชลโลจากศิลปินเกาหลีและไทย ใน
The Sound of Cellos : KOREA x THAILAND Concert Project Vol. 1

ในความร่วมมือของ Rocha Arts Group, Rocha Thailand และ Nuk Anong Music Studio

พบกับ KORTHA Quartet
🇰🇷 Soyoun Oh
🇰🇷 Hyomyung Choi
🇹🇭 Kunut Chaloempornpong
🇹🇭 Nutthan Surinpaeng

📅 วันศุกร์ ที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 18:30 น.
📍 จังหวัดเชียงใหม่ — สำรองที่นั่งได้ที่ Moonlight String Ensemble

📅 วันอาทิตย์ ที่ 17 สิงหาคม 2568 เวลา 19:00 น.
📍 จังหวัดเชียงราย — สำรองที่นั่งได้ที่ Chiangrai Youth Orchestra

📅 วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 18:00 น.
📍 กรุงเทพมหานคร — Siam Ratchada Auditorium, Yamaha Ratchadapisek, Fortune Town
🎟️ รายละเอียดและสำรองที่นั่ง: https://shorturl.at/XtMVH

⸻

คอนเสิร์ต The Sound of Cellos อัดแน่นไปด้วยบทเพลงคลาสสิกจากหลากหลายยุคสมัย 🎶
ทั้งผลงานยอดนิยมที่คุ้นหู เช่น Canon in D, Air on the G String, The Swan
รวมถึงบทเพลงคลาสสิกอื่น ๆ อีกมากมายที่ฟังง่ายและเต็มไปด้วยความงดงาม

🌏 ยังมีบทเพลงจากวัฒนธรรมหลากหลาย เช่น
Arirang เพลงพื้นบ้านเกาหลีที่เปี่ยมด้วยอารมณ์
และ The Joyful March ดนตรีแตรวงแบบไทยที่สดใสและเปี่ยมพลัง

✨ พร้อมบทเพลงร่วมสมัยอีกหลายชิ้นที่เราเตรียมไว้เป็นเซอร์ไพรส์
รับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับเสน่ห์ของเสียงเชลโลในหลากหลายรูปแบบ —
ทั้งคลาสสิก ร่วมสมัย และวัฒนธรรม ที่คุณอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน

22/07/2025

📍 เปิดคลาสพิเศษที่เชียงใหม่!

ระหว่างวันที่ 24 – 27 กรกฎาคมนี้
ครูโน้ตมีคอนเสิร์ตที่เชียงใหม่ และมีเวลาที่เปิดสอนพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจเรียนด้วยครับ!

🎻 Cello
📚 ทฤษฎีดนตรี (Music Theory)

ไม่ว่าจะเรียนเพื่อสอบเกรด ประกวด เสริมทักษะ หรือเริ่มต้นจากศูนย์
สามารถ นัดเวลาเรียน และ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ทาง
📩 อินบ็อกซ์เพจนี้
📱 Line:
📞 โทร: 088-252-7772

รายละเอียดคอนเสิร์ตวันที่ 26 https://www.facebook.com/share/p/1En4TnMQoZ/

22/07/2025

ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมรับชมคอนเสิร์ต
“Echoes Across Times by String Quartet” ✨🎻

คอนเสิร์ตที่จะพาคุณย้อนผ่านกว่า 150 ปีแห่งการเปลี่ยนผ่านของดนตรีคลาสสิก —
จากความเบิกบานแบบ Wolfgang Amadeus Mozart,
สู่ความเข้มข้นเร้าอารมณ์ของ Ludwig van Beethoven,
จนถึงเสียงแห่งแผ่นดินใหม่จากปลายปากกาของ Antonín Dvořák

🎼 Wolfgang Amadeus Mozart – Divertimento in D Major, K.136 (1772)
ผลงานสมัยวัยรุ่นของ Mozart ขณะมีอายุเพียง 16 ปี เป็นหนึ่งในสามบทเพลงที่นักวิชาการมักเรียกรวมกันว่า “Salzburg Symphonies” แม้ไม่ได้ใช้ชื่อซิมโฟนีอย่างเป็นทางการ แต่โครงสร้างและอารมณ์มีความใกล้เคียงกับซิมโฟนีขนาดย่อม

บทเพลงนี้เป็นดนตรีที่เน้นความรื่นรมย์ ฟังง่าย ทำนองสดใส มีความกระฉับกระเฉงแบบดนตรีคลาสสิกยุคต้น เหมาะกับการเริ่มต้นคอนเสิร์ตอย่างเบิกบาน

⸻

🎼 Ludwig van Beethoven – String Quartet No.4 in C minor, Op.18 No.4 (1799)
ในขณะที่ยังคงโครงสร้าง 4 ท่อนแบบคลาสสิก แต่ Beethoven เริ่มทดลองกับอารมณ์และการจัดวางองค์ประกอบของดนตรีอย่างจริงจัง

• อารมณ์: Key C minor ที่เขาเลือกใช้นี้มีความสำคัญมาก เพราะมักปรากฏในผลงานของเขาที่มีโทนจริงจัง เช่น Symphony No.5 หรือ Piano Sonata No.8 “Pathétique” — งานที่แสดงให้เห็นความตึงเครียด ความเข้มงวดทางจังหวะ และการเปลี่ยนความดังเบาเสียงอย่างรุนแรง ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนบทสนทนาทางอารมณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้

• โครงสร้าง: เขานำแนวคิดการพัฒนา “ท่อนหลัก” (thematic development) มาใช้มากขึ้น เช่น การนำทำนองเดิมกลับมาในรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงแล้ว (variation) หรือสลับตำแหน่งในเสียงประสาน การเขียนทำนองให้กระโดดมากกว่าทำนองแบบราบเรียบในยุค Mozart

ใน Quartet หมายเลข 4 นี้ เราได้ยินความเปลี่ยนแปลงอารมณ์บ่อยครั้ง การใช้เสียงประสานที่ซับซ้อน และการแสดงความเป็นตัวของตัวเองในแบบที่คีตกวีรุ่นก่อนอย่าง Haydn และ Mozart ไม่ค่อยทำ

⸻

🎼 Antonín Dvořák – Largo (จาก Symphony No.9 “From the New World”)
& String Quartet No.12 “American” (1893)
Dvořák เดินทางจากโบฮีเมียมายังอเมริกา เพื่อเป็นผู้อำนวยการของ National Conservatory of Music of America ในยุคที่อเมริกายังแสวงหา “เสียงของตัวเอง” บนเวทีคลาสสิก

เขาศึกษาทำนองของเพลง spiritual จากคนแอฟริกันอเมริกัน และรับฟังวัฒนธรรมดนตรีของชนพื้นเมืองอเมริกัน เขาเชื่อว่าเสียงเหล่านี้คือรากฐานที่แท้จริงของดนตรีอเมริกัน

• Symphony No.9 “From the New World” – ท่อนที่ 2 “Largo” มีทำนองช้า ลึกซึ้ง ให้ความรู้สึกเหมือนบทเพลงที่เรียกหาอดีตในดินแดนใหม่

• String Quartet No.12 “American” – แต่งขึ้นระหว่างการพักผ่อนในไอโอวา เต็มไปด้วยจังหวะพื้นบ้าน ทำนองที่มีลักษณะเพนตาโทนิก (Pentatonic scale) ที่พบใน folk music หลายวัฒนธรรม ทั้งแอฟริกันและชนพื้นเมือง

เสียงของ “โลกใหม่” จึงไม่ใช่การลอกแบบยุโรป แต่เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมหลายสายเข้าด้วยกันอย่างมีชีวิตชีวา

📍 วันเวลา: เสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2025 | เวลา 18:00 น.
📌 สถานที่: อาคาร 75 ปี สภาคริสตจักรฯ (เชียงใหม่)
🎟️ บัตรเข้าชม: ผู้ใหญ่ 600 บาท | เด็ก 300 บาท
📞 สำรองที่นั่ง: 061-6654928 หรือ 082-6943252 Moonlight String Ensemble

—

มาฟังบทเพลงที่ไม่ได้เป็นแค่ “เสียงไพเราะ” แต่ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของพัฒนาการดนตรีที่เชื่อมโยงผู้คน วัฒนธรรม และทวีปต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

Moonlight Ensemble proudly presents

“ Echoes Across Times By String Quartet ” 🎶✨

🗓️Saturday 26th July, 2025 🕕 06:00 pm
วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2025 เวลา 18:00 น.

🏛️ At Main Conference Hall, the Building 75 Years, the Church of Christ in Thailand (Chiangmai)
อาคาร 75 ปีสภาคริสตจักรฯ ศูนย์พันธกิจภาคเหนือ เชียงใหม่
📍 https://maps.app.goo.gl/yLSXAAoMkR254SDg9

📖Programme
Mozart String Quartet Divertimento in D Major 1st movement
Beethoven String Quartet No.4 in c minor Op.18
Dvorak Lango from the "New World" Symphony
String Quartet No.12 in F Major Op.96 "American"

🎟️ADULT 600 THB / CHILDREN 300 THB

For more information please contact
☎️Tel. 061-6654928, 082-6943252

18/07/2025

🌍 เมื่ออเมริกาเริ่มฟังเสียงของตัวเอง: บทเริ่มต้นของดนตรีคลาสสิกสัญชาติใหม่

เมื่อพูดถึงดนตรีคลาสสิกในศตวรรษที่ 19 ชื่อของบรรดาคีตกวียุโรปอย่างเบโธเฟน บราห์มส์ หรือวากเนอร์ คือผู้ครองเวทีคอนเสิร์ตอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่เพิ่งเติบโตขึ้นเป็นมหาอำนาจใหม่ ดนตรีคลาสสิกก็ยังคงเป็น “ของนำเข้า” จากยุโรป

ผู้คนฟังเพลงจากยุโรป เล่นเพลงจากยุโรป และวงออร์เคสตรามืออาชีพที่เริ่มตั้งขึ้นในนิวยอร์ก บอสตัน และชิคาโก ก็ล้วนเล่นแต่ผลงานของชาวยุโรป โดยนักดนตรีผู้อพยพที่นำความรู้ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมาด้วย

⸻

🎓 ความฝันใหม่กลางมหานคร: National Conservatory of Music of America

ท่ามกลางภาพที่ดูรุ่งโรจน์แต่ไร้รากของอเมริกาในยุคนั้น มีหญิงคนหนึ่งนามว่า Jeannette Thurber ลุกขึ้นมาท้าทายสิ่งที่สังคมเคยมองว่าถูกต้อง เธอฝันอยากให้อเมริกามีดนตรีคลาสสิกที่เป็น “เสียงของตัวเอง”

ในปี 1885 Thurber ก่อตั้งโรงเรียน National Conservatory of Music of America ที่นครนิวยอร์ก โดยมีแนวคิดที่ล้ำหน้ากว่าสังคมในยุคนั้นอย่างชัดเจน โรงเรียนแห่งนี้เปิดรับผู้หญิง คนผิวดำ และผู้พิการทางสายตาเข้ามาเรียนดนตรีอย่างเสมอภาค ซึ่งถือเป็นแนวคิดก้าวหน้าที่หาได้ยากยิ่งในสมัยนั้น

แต่หากจะเปลี่ยนอนาคตให้ได้จริง ๆ เธอรู้ดีว่าเธอต้องการ “ผู้นำทางเสียง” ที่กล้ามองเห็นคุณค่าของเสียงจากแผ่นดินใหม่นี้

⸻

🇨🇿 Dvořák กับภารกิจสร้างเสียงอเมริกัน

ในปี 1892 เธอเชิญ Antonín Dvořák นักแต่งเพลงชาวโบฮีเมีย ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นหัวขบวนของแนวคิด “ชาตินิยมดนตรี” ซึ่งเน้นการนำทำนองพื้นบ้านของชาติตัวเองมาสร้างเป็นดนตรีคลาสสิกคุณภาพสูง

Thurber เสนอเงื่อนไขที่ไม่อาจปฏิเสธได้:
• 💰 เงินเดือนสูงลิ่ว
• 🏠 บ้านพักในนิวยอร์ก
• ✈️ การเดินทางพร้อมทั้งครอบครัว
• 🎼 และที่สำคัญที่สุด: อิสรภาพในการสอนและแต่งเพลง

Dvořák ตอบตกลง และเดินทางมาถึงนิวยอร์ก พร้อมความหวังว่าจะช่วยให้อเมริกาค้นพบ “เสียงของตัวเองในโลกดนตรี”

⸻

🎶 เมื่อเสียงอเมริกันเริ่มมีชีวิต

ด้วยความหลงใหลในดนตรีพื้นบ้านมาตั้งแต่ในยุโรป เมื่อมาถึงอเมริกา Dvořák ก็เริ่มศึกษาเสียงของชาวแอฟริกัน-อเมริกัน โดยเฉพาะเพลง spiritual และยังรับฟังทำนองซ้ำ ๆ และจังหวะของชนพื้นเมืองอเมริกัน (Native American)

เขาเชื่อว่านี่คือ “เพลงพื้นบ้านของอเมริกา” ที่มีคุณค่าสูงสุด และเป็นรากฐานที่มั่นคงที่สุดสำหรับการสร้างดนตรีคลาสสิกแบบใหม่

ผลงานที่เกิดจากแนวคิดนี้ ได้แก่:
• 🎼 Symphony No. 9 in E minor “From the New World”
ทำนองซึ้งกินใจ มีกลิ่นอายของดินแดนอเมริกันตะวันตก
• 🎻 String Quartet No. 12 in F major “American Quartet”
สดใส สนุก และเต็มไปด้วยพลังของโลกใหม่

เสียงของอเมริกาเริ่มปรากฏบนเวทีคอนเสิร์ต — ไม่ใช่ในฐานะสิ่งแปลกใหม่อีกต่อไป แต่ในฐานะ “ดนตรีศิลป์”

⸻

💸 เมื่ออุดมคติต้องปะทะความจริง

แม้แนวคิดของ Dvořák จะเปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์ แต่โลกแห่งความเป็นจริงกลับโหดร้าย
• National Conservatory ไม่มีเงินทุนถาวร ต้องพึ่งพาเงินบริจาค
• วิกฤตเศรษฐกิจ Panic of 1893 ทำให้ผู้สนับสนุนหายไป
• อเมริกาเพิ่งเลิกทาสได้เพียง 27 ปี ความเหลื่อมล้ำยังฝังลึก
• แนวคิดที่ว่า “คนผิวดำและชนพื้นเมืองมีเสียงที่ควรถูกยกขึ้นเป็นศิลปะ” ยังถูกมองว่าเป็นเรื่องหัวรุนแรง
• นักแต่งเพลงสายอนุรักษ์นิยมบางกลุ่มโจมตี Dvořák ว่า “ทำลายมาตรฐานยุโรป”

ในที่สุดเขาตัดสินใจกลับสู่โบฮีเมียในปี 1895 พร้อมความผิดหวังเล็ก ๆ ว่าอเมริกายังไม่พร้อมจะมีเสียงของตัวเอง

⸻

🌱 มรดกที่เติบโตหลังจากเขาจากไป

แม้เขาจะจากไปโดยไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่เมล็ดพันธุ์ทางความคิดที่เขาฝังไว้เริ่มเติบโตในเวลาต่อมา
• 🎷 William Grant Still นักแต่งเพลงผิวดำรุ่นหลัง ยึดแนวคิดของเขามาพัฒนางานอย่างลึกซึ้ง
• 🎹 George Gershwin ผสม jazz เข้ากับโครงสร้างคลาสสิก
• 🌾 Aaron Copland สร้างซาวด์ของทุ่งหญ้าและฟาร์มอเมริกันในดนตรีคลาสสิก

⸻

🎻 จากอดีตถึงวันนี้: เสียงที่ย้อนสะท้อนข้ามกาลเวลา

กว่าร้อยปีผ่านไป ดนตรีที่ Dvořák เคยจินตนาการไว้ว่าเป็น “เสียงของอเมริกา”
ได้เดินทางผ่านกาลเวลาและวัฒนธรรม จนกลายเป็นหนึ่งในเสียงที่โดดเด่นที่สุดในโลกดนตรี

และในคอนเสิร์ตครั้งนี้ Moonlight String Ensemblee ภูมิใจนำเสนอบทเพลงทั้งสองที่เป็นเสาหลักของการค้นหาเสียงนั้น
ทั้ง Largo จาก Symphony No.9 ในเวอร์ชันเครื่องสายสี่ชิ้น
และ American Quartet ซึ่งเขียนขึ้นจากท้องทุ่งไอโอวา

วันที่ 26.07.25 เวลา 18:00 น.
ณ อาคาร 75 ปีสภาคริสตจักรฯ ศูนย์พันธกิจภาคเหนือ เชียงใหม่

แม้ทุกวันนี้หูของเราจะได้ยินกลิ่นอายแบบยุโรปตะวันออกปนอยู่ในงานเหล่านี้
แต่สิ่งที่ Dvořák มอบไว้คือจุดเริ่มต้นของการกล้าพูดว่า

“เสียงของอเมริกา ไม่จำเป็นต้องมาจากยุโรปอีกต่อไป”

นี่จึงไม่ใช่แค่คอนเสิร์ต แต่เป็นการย้อนฟังบทสนทนาระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่
ผ่านเสียงของเครื่องสาย 4 ชิ้น ที่ยังคงพูดแทนหัวใจของมนุษย์ทุกคนได้แม้เวลาจะผ่านไปกว่าศตวรรษ

16/07/2025

🎼 ทำไมต้องโอโบ? เบื้องหลังเสียง A ก่อนคอนเสิร์ตเริ่ม

เคยสังเกตกันมั้ยว่า ทุกครั้งที่ไปดูคอนเสิร์ตวงออร์เคสตรา ก่อนที่วงจะเริ่มบรรเลงเพลงจริง ๆ จะมีเสียงเครื่องดนตรีต่าง ๆ ดังปนกันวุ่นวาย ฟังดูมั่วไปหมด 🎻🥁 แต่แล้วจู่ ๆ ก็จะมีเสียงโน้ต “A” ดังขึ้นจากโอโบ และทันใดนั้น นักดนตรีทุกคนก็จะพากันเล่นโน้ต A ตาม เพื่อ “ตั้งเสียงให้ตรงกัน” …และนี่แหละคือเรื่องราวของการตั้งเสียงโดยคุณโอโบ 🎶

⸻

โน้ต A…ไม่ใช่แค่ตัวโน้ต แต่เป็นมาตรฐาน

โดยปกติ วงออร์เคสตราจะตั้งเสียงตามโน้ตตัว A ที่สั่น 440 ครั้งต่อวินาที (หรือที่เรียกว่า A = 440 Hz) แต่ก็มีบางวงเลือกใช้ A = 442 หรือ 443 ขึ้นอยู่กับแต่ละที่

ที่เลือกใช้ โน้ต A เป็นมาตรฐาน เพราะเครื่องสายทุกชนิดในวงจะมีสาย A อยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นไวโอลิน วิโอลา เชลโล หรือดับเบิลเบส ทำให้การเริ่มตั้งเสียงจากโน้ตนี้สะดวกที่สุด

ย้อนกลับไปในอดีต วงออร์เคสตรามีแต่เครื่องสายเป็นหลัก เวลาตั้งเสียงจึงอ้างอิงจากสาย A ของ Concertmaster (หัวหน้าวงไวโอลิน) แต่พอมีเครื่องดนตรีประเภทอื่นเข้ามาเพิ่ม ทุกคนก็ต้องปรับตัว มาตั้งเสียงตามโน้ต A เพื่อให้ทั้งวง “พูดภาษาเดียวกัน”

⸻

แล้วทำไมวงโยฯ ถึงตั้งเสียง B♭ ล่ะ?

สำหรับเด็กวงโยฯ (Marching Band) จะคุ้นกับการตั้งเสียงตามโน้ต B♭ มากกว่า เพราะเป็น fundamental pitch ของเครื่องเป่าหลายชนิด เช่น Trumpet หรือ Clarinet แต่เมื่อใดที่มีเครื่องสายเข้ามาร่วมวงด้วย ครูก็มักจะสั่งให้ตั้งเสียงตาม A Concert แทน ซึ่งทำเอาหลายคนงงกันว่า…เอ๊ะ ต้องกดยังไงกันนะ? 😅

⸻

ทำไมต้องโอโบ?

วงออร์เคสตรายุคแรกประกอบด้วยเครื่องสายเป็นหลัก ส่วนโอโบในสมัยนั้นมักใช้แค่เพื่อเสริมเสียงไวโอลินหนึ่งและไวโอลินสอง แต่พอนักแต่งเพลงเริ่มสังเกตว่า เสียงโอโบมีโทนสว่าง สดใส พุ่งออกมาได้ดี และได้ยินชัดทั้งวง โอโบจึงกลายมาเป็นเครื่องดนตรีหลักในการตั้งเสียง เพราะ…

✅ โอโบได้ยินชัดในทุกมุมของฮอลล์
✅ โอโบมีเสียงค่อนข้างเสถียร เมื่อเทียบกับเครื่องสายยุคก่อน (ที่ยังใช้ สายลำไส้สัตว์ หรือ gut strings ซึ่งเพี้ยนง่ายกว่าสายสังเคราะห์หรือสายโลหะในปัจจุบัน)

อีกเหตุผลหนึ่งคือ โอโบแทบไม่เคยหายไปจากวงออร์เคสตราเลย ในขณะที่เครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ ถูกนักแต่งเพลง “จับเข้า จับออก” อยู่ตลอด แต่โอโบถูกใช้ในบทเพลงออร์เคสตราอย่างสม่ำเสมอ จึงกลายเป็นมาตรฐานสำหรับการตั้งเสียงไปโดยปริยาย

⸻

โอโบก็เพี้ยนได้นะ!

แม้โอโบจะขึ้นชื่อว่าเสถียร แต่ก็เพี้ยนได้เหมือนเครื่องดนตรีอื่น ๆ เพียงแต่วิธีการปรับเสียงของโอโบ ไม่เหมือนใคร เพราะต้องปรับที่ ลิ้น (reed) ซึ่งทำจากไม้บาง ๆ และเปราะมาก โอโบต้อง…

🔹 เหลาลิ้นเพื่อลดหรือเพิ่มความหนา
🔹 ปรับความยาวของลิ้น
🔹 แช่ลิ้นในน้ำให้ได้ความชื้นพอดี

เพื่อนที่เป่าโอโบจึงต้องเตรียมตัวมากกว่าใคร บางคนถึงขั้นพกลิ้นสำรองเป็นสิบ ๆ อัน เพื่อเลือกตามสภาพอากาศ ความชื้น หรือแม้แต่ตามฟีลในวันนั้น ในขณะที่เครื่องดนตรีอื่น ๆ มักปรับเสียงได้ง่ายกว่า เช่น เครื่องเป่าก็ขยับท่อน หรือเครื่องสายก็หมุนลูกบิดปรับสายได้ทันที

เพราะแบบนี้แหละ…ทุกคนเลยยอมตามโอโบไปก่อนน้า 😄

⸻

แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป…โอโบก็ยังอยู่

ทุกวันนี้ แม้ทุกคนจะมี Tuner ใช้กันแล้ว แต่วงออร์เคสตราส่วนใหญ่ก็ยังรักษาธรรมเนียมให้โอโบเป็นผู้นำในการตั้งเสียงอยู่ดี

แต่ก็เคยมีเหตุการณ์เซอร์ไพรส์อยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่ผมไปดูวงออร์เคสตราที่ Amsterdam ก่อนการแสดงก็ได้เปิด Tuner โน้ต A ดังลั่นทั้งฮอลล์ ให้ทั้งวงจูนกันไปเลย และคนที่เป็นคนเปิดปิดเครื่อง Tuner ก็คือ…นักโอโบนั่นเอง 🤣 พอเห็นแบบนั้นก็รู้สึกว่า วัฒนธรรมหลายอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเหมือนกันเนอะ

⸻

ถึงอย่างนั้น ถ้าวันไหนไม่ได้ยินเสียงโอโบเป่าโน้ต A ขึ้นมา คงรู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย เพราะมันไม่ใช่แค่เสียง A ธรรมดา แต่มันคือ สัญญาณพิเศษ ที่บอกว่าการแสดงกำลังจะเริ่มขึ้น และเป็น บรรยากาศที่คุ้นเคยและผูกพัน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของดนตรีคลาสสิกไปแล้วจริง ๆ ครับ 🎵💫

📝เรียบเรียงโดย ครูโน้ต / Nuk Anong Music Studio

#เรียนดนตรีกับครูโน้ต
👉 https://openlink.co/nukanongmusicstudio
📥 สนใจเรียนดนตรีกับครูโน้ต Inbox ได้เลย

15/07/2025

🎻✨ The Sound of Cellos ✨🎻
* English Below *

เมื่อเสียงเชลโลจากสองวัฒนธรรม โคจรมาพบกันบนเวทีเดียว!
สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเสียงเชลโลจากศิลปินเกาหลีและไทย ใน KOREA x THAILAND Concert Project Vol. 1

ในความร่วมมือของ Rosha Arts Group, Rosha Thailand และ Nuk Anong Music Studio

พบกับ KORTHA Quartet
🇰🇷 Soyoun Oh
🇰🇷 Hyomyung Choi
🇹🇭 Kunut Chaloempornpong
🇹🇭 Nutthan Surinpaeng

🔹 วัน ศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 18:00 น.
🔹 สถานที่ Siam Ratchada Auditorium, Yamaha Ratchadapisek, Fortune Town, Bangkok
📍https://maps.app.goo.gl/FgPCiHQrx3knAhpL9

บัตรราคา:
🎫 ผู้ใหญ่ 850 บาท
🎫 นักเรียนอายุต่ำกว่า 22 ปี 500 บาท

คอนเสิร์ต The Sound of Cellos อัดแน่นไปด้วยบทเพลงคลาสสิกจากหลากหลายยุคสมัย ทั้งผลงานที่ทุกคนคุ้นหู เช่น Canon in D, Air on the G String, The Swan และอีกหลายบทเพลงที่เปี่ยมด้วยความงดงาม นอกจากนี้ ยังมีบทเพลงจากหลากหลายวัฒนธรรม อาทิ Arirang เพลงพื้นบ้านเกาหลี และ The Joyful March ดนตรีแตรวงแบบไทยที่สดใสและเต็มไปด้วยพลัง และที่พิเศษที่สุด คือบทเพลงร่วมสมัยอีกหลายชิ้นที่เตรียมไว้เป็นเซอร์ไพรส์ รับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับเสน่ห์ของเสียงเชลโลในหลากหลายรูปแบบ ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

🎟️ ท่านสามารถสำรองที่นั่งผ่านทาง Google Form:

https://shorturl.at/XtMVH

📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 088-252-7772
อีเมล: [email protected]
Facebook & Instagram: Nuk Anong Music Studio
LINE ID:

🌟 รายละเอียดการแสดงที่เชียงใหม่:
🔹 วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2568
📍จองที่นั่งผ่าน Facebook: Moonlight String Ensemble
📞 ติดต่อ: 061-295550, 082-6943252

การแสดงครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคม 2568 ที่จังหวัดเชียงราย
โปรดติดตามรายละเอียดได้เร็ว ๆ นี้

________________________________________

🎻✨ The Sound of Cellos ✨🎻

When the sound of cellos from two cultures comes together on one stage!
Experience the magical charm of the cello performed by talented artists from Korea and Thailand in the KOREA x THAILAND Concert Project Vol. 1

A collaboration between Rocha Arts Group, Rocha Thailand, and Nuk Anong Music Studio

Featuring the KORTHA Quartet
🇰🇷 Soyoun Oh
🇰🇷 Hyomyung Choi
🇹🇭 Kunut Chaloempornpong
🇹🇭 Nutthan Surinpaeng

🔹 Date: Friday, 22 August 2025, at 6:00 PM
🔹 Venue: Siam Ratchada Auditorium, Yamaha Ratchadapisek, Fortune Town, Bangkok
📍https://maps.app.goo.gl/FgPCiHQrx3knAhpL9

Ticket prices:
🎫 Adults: 850 THB
🎫 Students under 22 years old: 500 THB

The Sound of Cellos is packed with classical masterpieces from various eras, including beloved works such as Canon in D, Air on the G String, The Swan, and many other beautiful pieces.

The program also features music from diverse cultural backgrounds, such as Arirang, a Korean folk song, and The Joyful March, a lively and powerful Thai brass band composition.

Even more special, several contemporary pieces have been prepared as surprises, ensuring you’ll enjoy the cello’s captivating sound like never before!

🎟️ Reserve your seat via Google Form:
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdgaftx8AqH0p5-GPUWhoRON5knLulOltFqpaCDdj2Run0Hvw/viewform?usp=header

📞 For more information:
Tel: +66 88-252-7772
Email: [email protected]
Facebook & Instagram: Nuk Anong Music Studio
LINE ID:

🌟 Chiang Mai performance:
🔹 Date: Friday, 15 August 2025
📍 Reserve via Facebook: Moonlight String Ensemble
📞 Contact: 061-295550, 082-6943252

The second performance will be held on 17 August 2025 in Chiang Rai.
Please stay tuned for more details coming soon!

08/07/2025

🙏 ขอขอบคุณวง

ที่ได้มอบโอกาสอันล้ำค่าให้กับเด็ก ๆ จาก มูลนิธิสันติสุข อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แม้ว่าน้อง ๆ จะขาดโอกาสในหลายด้าน แต่ครั้งนี้พวกเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ต Side by Side with Thailand Philharmonic Orchestra 2025 อย่างภาคภูมิใจ

ครั้งนี้เป็นการเล่นในวงออร์เคสตราครั้งแรกของน้อง ๆ ได้ร่วมเวทีกับนักดนตรีที่มีความสามารถในระดับนานาชาติ ประสบการณ์ที่ได้รับจะเป็นความทรงจำที่น้อง ๆ จะไม่มีวันลืม และเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ก้าวต่อไปบนเส้นทางดนตรี

ขอบคุณ Thailand Philharmonic Orchestra อีกครั้งที่เปิดเวทีและเปิดโลกให้น้อง ๆ ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ครับ 🎻✨

06/07/2025

🎻 เสียงลับจากไม้และสาย: เบื้องหลังไวโอลินที่มากกว่าแค่เสียง

ท่ามกลางเสียงดนตรีที่สะกดคนทั้งห้อง… เสียงไวโอลินหนึ่งเดียวดังขึ้น ทั้งอบอุ่น ทั้งเร่าร้อน แต่ใครจะรู้ว่าในทุกโน้ตที่พุ่งออกมานั้น ซ่อนความลับมากมาย — ตั้งแต่เนื้อไม้ที่เติบโตช้าในยุคน้ำแข็งน้อย สูตรวาร์นิชลึกลับที่ไม่มีใครลอกเลียนได้ จนถึงเศษเสี้ยวของมือช่าง ที่ต้องขูดไม้ให้บางเพียงไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตร เพื่อให้ได้เสียงที่ทำให้ทั้งโลกหยุดฟัง

นี่แหละ… ความลับของไวโอลิน ที่ทำให้มันไม่ใช่แค่เครื่องดนตรี แต่เป็นงานศิลปะที่มีชีวิต


📍 https://openlink.co/nukanongmusicstudio
📥 สนใจเรียนดนตรีกับครูโน้ต Inbox ได้เลย
📲 Facebook, TikTok, YouTube, IG & Lemon8: Nuk Anong Music Studio

04/07/2025

🎻 ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นกำลังใจให้น้องสกาย (Violin) และน้องตันหยง (Cello)

สองนักเรียนคนเก่งจาก มูลนิธิสันติสุข อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ที่ได้ก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอนเสิร์ต Side by Side with Thailand Philharmonic Orchestra 2025

น้อง ๆ ขยันฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยมี อาจารย์มินโฮ ครูโอม และครูโน้ต คอยช่วยดูแลและฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ น้องๆได้เข้าร่วมซ้อมกับวง Thailand Philharmonic orchestra ระหว่างวันที่ 1 – 4 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะขึ้นแสดงจริงในวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 ณ หอแสดงดนตรีมหิดลสิทธาคาร (Prince Mahidol Hall)

🎫 ท่านสามารถสำรองที่นั่งและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
👉 www.thailandphil.com/events/side-side-thailand-phil-2

มาร่วมส่งแรงใจ และร่วมชมความสามารถของน้อง ๆ บนเวทีดนตรีครั้งสำคัญนี้ไปด้วยกันนะครับ! ✨

03/07/2025

🎼 อัจฉริยะหรือบ้า? ความจริงที่ซ่อนอยู่หลังตำนาน Mad Genius ของโลกดนตรี

“No great genius has ever existed without some touch of madness.”
“ไม่เคยมีอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่คนใดที่ปราศจากร่องรอยของความบ้าอยู่ในตัว”
– Aristotle

เพียงประโยคเดียว ก็ทำให้โลกเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ระดับ “อัจฉริยะ” มักต้องมาพร้อมจิตใจที่…ไม่ปกติเท่าไรนัก

มีเรื่องเล่าศิลปินผู้ทรมานตัวเองเพื่อสร้างผลงานยิ่งใหญ่เต็มไปหมด — Vincent van Gogh ที่บอกว่าเขา “สูญเสียสติไปกับงานศิลป์”

⸻

🎵 ในโลกดนตรี… Mad Genius จริงหรือแค่เรื่องเล่า?

ในโลกดนตรีเอง ภาพ “อัจฉริยะผู้บ้าคลั่ง” ก็ปรากฏให้เห็นจนคนอดสงสัยไม่ได้ว่าความคิดสร้างสรรค์กับความไม่ปกติทางจิตใจต้องมาคู่กันจริงหรือ?
• Robert Schumann ผู้ชีวิตเหวี่ยงสุดโต่ง ถูกวิเคราะห์ในปัจจุบันว่าอาจป่วยเป็น Bipolar Disorder เขาเคยพยายามจบชีวิตด้วยการกระโดดลงแม่น้ำ Rhine แม้จะรอด แต่ต้องใช้ชีวิตช่วงท้ายในโรงพยาบาลจิตเวช และไม่สามารถแต่งเพลงได้อีก
• Jean Sibelius ที่ดื่มเหล้าหนักจนสุขภาพทรุดและเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า ถึงขั้นหยุดแต่งเพลงไปเกือบ 30 ปีสุดท้ายของชีวิต เงียบหายจากวงการทั้งที่คนรอผลงานเขาอย่างใจจดใจจ่อ
• Modest Mussorgsky ที่เหล้ากลายเป็นเพื่อนสนิท แต่สุดท้ายพรากชีวิตเขาไปเร็ว
• Arnold Schoenberg ที่ถึงขั้นกลัวเลข 13 อย่างจริงจัง จนต้องเปลี่ยนชื่อผลงานไม่ให้มีตัวอักษรรวม 13 ตัว เพราะเชื่อว่าจะนำโชคร้ายมาสู่ชีวิต

⸻

🧠 ความคิดสร้างสรรค์กับความป่วยทางจิต…มีจริงไหม?

ถ้าหันไปถามนักวิทยาศาสตร์ คำตอบคือ…ยังไม่มีข้อสรุปเด็ดขาด

งานวิจัยที่ BBC อ้างอิงศึกษาเรื่องนี้ 29 ชิ้น พบว่าผลออกมา ครึ่ง ๆ กลาง ๆ บางงานพบว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับปัญหาสุขภาพจิต แต่หลายงานก็ไม่พบ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าสองสิ่งนี้เกี่ยวข้องกันจริงหรือไม่

แต่แนวทางวิจัยใหม่ก็เริ่มน่าสนใจ เช่น งานปี 2020 ที่พบว่า คนที่เป็น Autism มักชอบดนตรีตั้งแต่เด็ก และบางคุณสมบัติของออทิสติกกลับส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านดนตรีด้วยซ้ำ

หรือ Dr. Ulrich Müller-Sedgwick จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ADHD ก็สนใจศึกษา neurodivergent traits ในตัว Mozart, Mahler และ Bruckner เพื่อหาคำตอบว่าความต่างทางสมองอาจเชื่อมโยงกับพรสวรรค์ดนตรีหรือเปล่า

⸻

👩‍🎤 Mad Genius กับความเหลื่อมล้ำทางเพศ

เรื่องนี้ยังไม่แฟร์สำหรับผู้หญิง เพราะสังคมมักให้ “Mad Genius” เป็นตำแหน่งสำหรับ ผู้ชาย ส่วน ผู้หญิง ถ้าป่วยทางจิต มักถูกมองว่า “hysterical” หรือประสาทแตกไร้เหตุผล

อย่าง Margaret Sutherland คีตกวีหญิงชาวออสเตรเลีย ก็เคยโดนสามี (ที่ภายหลังหย่ากัน) เหมาเอาว่า ความชอบแต่งเพลงของเธอคือโรคจิต ซึ่งแน่นอน…ไม่ใช่ความจริง

⸻

🎼 บทเรียนจาก Julia Adolphe: ศิลปะไม่ต้องมาพร้อมความเจ็บป่วย

Julia Adolphe คีตกวีชาวอเมริกัน เจ้าของผลงานที่วงใหญ่ระดับ Boston Symphony Orchestra และ LA Philharmonic นำไปแสดง เธอป่วยเป็น Generalized Anxiety Disorder (GAD) หรือภาวะวิตกกังวลทั่วไป

ช่วงแรกเธอไม่อยากรักษา เพราะคิดว่าความวิตกกังวลทำให้เธอแต่งเพลงได้ดี

“ฉันเคยมีค่ำคืนที่นั่งแต่งเพลง 9 ชั่วโมงติด เพราะกังวลจนต้องเขียนให้เสร็จ ถึงจะทรมาน แต่ฉันก็พอใจกับงานที่ออกมา”

แต่ความจริงก็คือ อาการป่วยทำให้เธอแทบไม่ได้เข้าห้องทำงานเพื่อแต่งเพลงเลย จนต้องเปลี่ยนใจยอมรักษา และค้นพบว่า

“มันจัดการได้ และฉันก็ยังสร้างสรรค์และมีอาชีพได้เหมือนเดิม”

⸻

🎺 ศิลปะต้องมาจากความเจ็บปวดจริงหรือ?

Rebecca Toal มือทรัมเป็ตและผู้จัดพอดแคสต์ Things Musicians Don’t Talk About บอกว่า

“คนชอบพูดว่าคุณเอาความป่วยทางจิตมาสร้างงานศิลปะได้ แต่ในความจริง ตอนคุณทุกข์ทรมาน ไม่มีใครอยากฟัง ฉันไม่เคยรู้สึกว่าการป่วยทางจิตช่วยให้ฉันเป็นนักดนตรีที่เก่งขึ้นเลย”

และนั่นคือความจริงที่วงการดนตรียังต้องเผชิญ เพราะแม้ทุกวันนี้จะพูดเรื่อง Mental Health มากขึ้น แต่ Rebecca Toal มองว่า

“Mental Health กลายเป็นแค่คำสวยหรูที่บางทีก็ไม่มีความหมาย เพราะถึงจะมีนักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษา แต่วงการดนตรียังเต็มไปด้วยการแข่งขัน ความไม่มั่นคง และความไม่เท่าเทียมทางเพศ”

⸻

ฟังดูเหมือนโรแมนติกว่าความทุกข์ทรมานจะเป็นเชื้อเพลิงให้สร้างงานศิลปะยิ่งใหญ่ แต่ความจริงไม่ได้สวยงามขนาดนั้น เพราะหลายคนต้องแลกมาด้วยสุขภาพจิตที่พังทลาย และบางครั้งก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถสร้างงานได้เลย

ความเจ็บป่วยไม่ได้สร้างศิลปะเสมอไป — บางครั้งมันพรากทั้งศิลปะและชีวิตไปด้วยซ้ำ

📝 แปลและเรียบเรียงจากเนื้อหาของ

https://www.classical-music.com/articles/mental-illness-creativity

โดย ครูโน้ต / Nuk Anong Music Studio

👉 https://openlink.co/nukanongmusicstudio
📥 สนใจเรียนดนตรีกับครูโน้ต Inbox ได้เลย

#เรียนดนตรีกับครูโน้ต