25/11/2024
ยาวหน่อยน้าา อยากอัปเดตให้ทราบสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของน้องพะยูนกัน อย่าทิ้งน้องนะครับบบ
[1/4]ช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์น้องพะยูนในประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล ข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเผยว่า ช่วงเดือนตุลาคม 2567 พบพะยูนเสียชีวิตมากถึง 9 ตัว โดย 2 ตัวพบเกยตื้นที่จังหวัดตรังก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา อีก 7 ตัวพบเป็นซากเกยตื้นกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย ภูเก็ต 3 ตัว กระบี่ 1 ตัว ตรัง 2 ตัว และสตูล 3 ตัว ซึ่งเป็นสถิติการเสียชีวิตต่อเดือนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา ล่าสุด! ในเดือนพฤศจิกายนพบพะยูนเสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ตัว
สาเหตุการเสียชีวิตมาจากอาการป่วยเพราะขาดแคลนหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารหลักของพะยูน ผลจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างหนัก เมื่ออุณหภูมิในทะเลเพิ่มสูงขึ้น บวกกับระดับน้ำทะเลที่ลดต่ำผิดปกติ (ฝั่งอันดามัน) ทำให้หญ้าทะเลต้องตากแดดเป็นเวลานานจนอ่อนแอไม่สามารถเติบโตได้ ทำให้พื้นที่ที่เคยมีหญ้าทะเลจำนวนมากในจังหวัดระยอง ตราด ตรัง จันทบุรี กระบี่และสตูลลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสถานการณ์วิกฤติในช่วง 2566 - 2567
นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่น เช่น หญ้าทะเลถูกทับถมโดยตะกอนทรายจนไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในบางพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการขุดลอกร่องน้ำและการกัดเซาะชายฝั่ง อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและยั่งยืนจำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างจริงจังเพื่อหาสาเหตุเฉพาะตามพื้นที่ที่เกิดปัญหาต่อไป
ขณะที่ในพื้นที่ทะเลจังหวัดตรังเมืองหลวงของเหล่าพะยูน มีรายงานว่าพื้นที่หญ้าทะเลกว่า 15,000 ไร่ที่เคยอุดมสมบูรณ์และใหญ่ที่สุด ได้เสื่อมโทรมและตายลงไปกว่า 70% หรือคิดเป็นพื้นที่กว่า 10,500 ไร่ โดยบริเวณท่าเทียบเรือเกาะมุกด์พบว่ามีการทับถมของตะกอนทรายบนพื้นที่หญ้าทะเลอย่างมีนัยสำคัญ พะยูนที่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่จึงไม่มีทางเลือกต้องอพยพย้ายถิ่นเพื่อหาแหล่งอาหารใหม่ ซึ่งการเดินทางไกลทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและความหิวโหยเพิ่มขึ้น
