
08/08/2025
ระบบสืบพันธุ์เป็นหนึ่งในระบบการทำงานของร่างกายที่สำคัญในสุนัข ที่หากเกิดปัญหาหรือความผิดปกติแล้ว อาจส่งผลต่อถึงระบบอื่น ๆ รวมถึงสุขภาพโดยองค์รวมของสุนัขแต่ละตัวได้ บทความนี้จะกล่าวถึงโรคหรืออาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ในสุนัขที่มักพบได้บ่อย ได้แก่
1. โรคต่อมลูกหมากโตในสุนัข (Benign prostatic hyperplasia; BPH)
โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสุนัขเพศผู้อายุมากที่ยังไม่ได้ทำหมัน โดยพบความชุกของโรคอยู่ที่ 80% ในสุนัขอายุมากกว่า 6 ปี และพบได้ถึง 95% ในสุนัขอายุมากกว่า 9 ปี
ซึ่งต่อมลูกหมากนั้นจะวางตัวอยู่บริเวณคอหรือปลายทางออกของกระเพาะปัสสาวะและล้อมรอบท่อปัสสาวะส่วนต้น มีหน้าที่ในการผลิตน้ำเลี้ยงเชื้ออสุจิ โดยการเจริญของต่อมลูกหมากนั้นจะขึ้นอยู่กับ dihydrotestosterone (DHT) ซึ่งเกิดจากการเมแทบอไลต์ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ผลิตจากอัณฑะโดยเอนไซม์ที่มีชื่อว่า 5α-reductase จึงพบว่าขนาดของต่อมลูกหมากในสุนัขจะลดลงได้ 50% ภายใน 3 สัปดาห์หลังผ่าตัดทำหมัน และลดขนาดลงถึง 70% หลังจากทำหมันแล้ว 9 สัปดาห์
อาการที่พบได้บ่อยในสุนัขที่มีภาวะต่อมลูกหมากโต ได้แก่ ปัสสาวะกะปริดกะปรอย ปัสสาวะลำบาก ขับถ่ายอุจจาระลำบาก มีเลือดปนมากับปัสสาวะ หรือพบของเหลวปนเลือดออกมาจากปลายอวัยวะเพศ หรือในบางรายที่ตรวจพบว่าต่อมลูกหมากโตก็อาจยังไม่พบอาการผิดปกติได้เช่นกัน
การวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโตสามารถทำได้หลายวิธี เริ่มจากการตรวจร่างกาย จากตำแหน่งการวางตัวของต่อมลูกหมาก ทำให้สามารถตรวจคลำได้โดยการใช้นิ้วล้วงผ่านทางรูทวารของสุนัข ซึ่งจะพบความผิดปกติเมื่อต่อมลูกหมากมีขนาดโตกว่าปกติ และสามารถพบต่อมลูกหมากโตได้จากภาพเอกซเรย์ นอกจากนี้ยังสามารถวัดขนาดของต่อมลูกหมากได้จากการอัลตราซาวนด์เพื่อเทียบกับขนาดที่ควรจะเป็นตามน้ำหนักตัวได้อีกด้วย
การรักษามีเป้าหมายหลักในการลดขนาดของต่อมลูกหมากลง โดยวิธีการที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดคือการผ่าตัดทำหมัน อย่างไรก็ตามในรายที่มีข้อจำกัดในการผ่าตัด เช่น ต้องการใช้เป็นพ่อพันธุ์หรือมีภาวะติดเชื้อในต่อมลูกหมากร่วมด้วย ก็สามารถใช้การรักษาทางยาได้ โดยจะเป็นยาที่ไปลดการทำงานของเอนไซม์ 5α-reductase ชื่อว่า Finasteride ซึ่งสัตว์จะต้องได้รับยาต่อเนื่องไปตลอดชีวิต
2. ภาวะมดลูกติดเชื้อเป็นหนองในสุนัข (Pyometra)
ภาวะมดลูกติดเชื้อเป็นหนอง ถือเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีความรุนแรงทางระบบสืบพันธุ์ในสุนัขเพศเมียและก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ โดยตามวงรอบการเป็นสัดปกติแล้วนั้น จะมีระยะที่ร่างกายอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอร์โรน มดลูกจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยการหนาตัวขึ้นเพื่อรองรับการปฏิสนธิและการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเติบโตของแบคทีเรีย ดังนั้นหากสุนัขได้รับฮอร์โมนจากภายนอก เช่น การฉีดยาคุม หรือมีภาวะการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเยื่อบุโพรงมดลูก (Cystic endometrial hyperplasia, CEH) อาจโน้มนำให้เกิดภาวะมดลูกติดเชื้อและเป็นหนองตามมาได้
แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของมดลูกอักเสบที่พบบ่อย ได้แก่ E.coli ซึ่งเป็นแบคทีเรียปกติที่พบได้ในลำไส้และช่องคลอด ดังนั้น หากมีการติดเชื้อในช่องคลอดหรือทางเดินปัสสาวะ อาจโน้มนำการติดเชื้อย้อนขึ้นไปที่มดลูกได้ สุนัขที่มีภาวะมดลูกติดเชื้อเป็นหนองจะมีอาการไม่เฉพาะเจาะจงแค่ระบบสืบพันธุ์ แต่จะแสดงอาการของการติดเชื้อในกระแสเลือดและอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ อาการที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ ซึม มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาการ อาเจียน ปวดท้อง กินน้ำมาก ปัสสาวะมาก หากเป็นการติดเชื้อแบบปากมดลูกเปิดจะเห็นหนอง เลือดหรือสิ่งคัดหลั่งไหลออกมาจากอวัยวะเพศ ถ้าเป็นการติดเชื้อแบบปากมดลูกปิดจะไม่พบสิ่งคัดหลั่งไหลออกมาจากอวัยวะเพศ การคั่งของหนองอยู่ภายในมดลูกจะทำให้เกิดการขยายใหญ่ของมดลูกและช่องท้อง สุนัขจะแสดงอาการป่วยอย่างรุนแรงและเสี่ยงต่อภาวะมดลูกฉีกขาด (Uterine rupture) ถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้
ภาวะมดลูกติดเชื้อเป็นหนองเป็นโรคที่ควรคำนึงถึงในสุนัขเพศเมียที่ยังไม่ได้ทำหมันทุกตัว ส่วนมากมักจะมีการติดเชื้อในระยะหลังการเป็นสัด (diestrus) การวินิจฉัยจึงเริ่มการการซักประวัติสัตว์ป่วย การตรวจร่างกายพื้นฐาน หากสัตว์มีแนวโน้มที่จะเป็น ภาวะมดลูกติดเชื้อเป็นหนอง จะต้องทำการตรวจเพิ่มเติม ดังนี้
• การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เพื่อประเมินสภาวะการติดเชื้อในร่างกาย จะพบว่ามีเม็ดเลือดขาวสูง โดยเฉพาะ neutrophils อาจพบภาวะโลหิตจางในรายที่มีเลือดออก
• การตรวจค่าเคมีในเลือด เพื่อประเมินสภาพการทำงานของตับ-ไต โดยส่วนมากไตอาจจะได้รับผลกระทบจากสารพิษที่แบคทีเรียสร้างขึ้นได้ ทำให้มีค่า Creatinine สูงได้ ในบางรายมีภาวะ dehydration จะพบว่าค่า BUN สูงขึ้นจากปกติ
• การตรวจเซลล์เยื่อบุช่องคลอดเพื่อระบุระยะในวงรอบการเป็นสัด
• ภาพถ่ายเอกซเรย์ เพื่อตรวจดูการขยายใหญ่ของมดลูก หากการติดเชื้อแบบปากมดลูกเปิดอาจไม่พบการขยายใหญ่ของมดลูก
• การอัลตราซาวนด์ช่องท้อง ดูการขยายใหญ่ของมดลูกและสามารถระบุประเภทของเหลวที่อยู่ในมดลูกได้ว่าเป็น Hydrometra หรือ Pyometra
หากสัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยยืนยันได้ว่าสุนัขป่วยด้วยภาวะมดลูกติดเชื้อเป็นหนอง ควรจะเริ่มทำการรักษาโดยทันทีเพื่อป้องกันการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด ซึ่งส่งผลถึงแก่ชีวิตได้ แนวทางการรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเอามดลูกและรังไข่ออก (Ovariohysterectomy) ซึ่งก่อนผ่าตัดจะต้องทำการประเมินสภาพและปรับความพร้อมของร่างกายสุนัขก่อน โดยให้ยาปฏิชีวนะควบคู่กับการให้สารน้ำเพื่อปรับสภาพ นอกจากนี้ควรเสริมด้วยการรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาลดอักเสบ ยาบรรเทา ความเจ็บปวด ยาต้านการอาเจียน และอื่น ๆ
หลังการผ่าตัดแล้ว การรักษาตามอาการและการดูแลต่อเนื่องยังมีความจำเป็นจนกว่าสุนัขจะกลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะในสุนัขที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและสุนัขที่มีค่าการทำงานของไตสูงกว่าปกติ สุนัขควรได้รับยาปฏิชีวนะโดยการกินต่อเนื่อง 7-10 วัน และมีการตรวจเลือดซ้ำ
ในสุนัขป่วยบางตัวที่เจ้าของไม่ต้องการให้ผ่าตัดนำมดลูกและรังไข่ออก เนื่องจากเป็นสุนัขที่ต้องการใช้เป็นแม่พันธุ์ การรักษาด้วยฮอร์โมนจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยการให้ PGF2 alpha ทำให้เกิดการสลายของ corpus luteum ซึ่งเป็นแหล่งสร้างฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน และยังมีผลให้ผนังมดลูกบีบตัว เกิดการเปิดของปากมดลูกเพื่อไล่ของเหลวออกจากมดลูก อย่างไรก็ตามการใช้ฮอร์โมนในการรักษา ยังมีผลข้างเคียงที่ต้องคำนึงถึง รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีผล เช่น อายุ โดยไม่แนะนำให้ใช้การรักษาทางฮอร์โมนในสุนัขที่อายุมากกว่า 8 ปี และไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีที่เป็นมดลูกอักเสบแบบปากมดลูกปิดเนื่องจากจะทำให้เกิดภาวะมดลูกแตก (Uterine rupture) ได้
3. เนื้องอกเต้านม (Mammary gland tumor)
เนื้องอกเต้านมเป็นเนื้องอกชนิดที่พบได้มากที่สุดในสุนัขเพศเมียที่ยังไม่ได้ทำหมัน โดยพบได้ถึง 13.4% ของเนื้องอกทั้งหมดที่พบในสุนัข และพบได้ถึง 41.7% ของเนื้องอกทั้งหมดในสุนัขเพศเมียที่ยังไม่ได้ทำหมัน (Karin Sorenmo, 2003) ส่วนสุนัขเพศผู้จะมีโอกาสพบเนื้องอกเต้านมได้น้อยกว่า 1% (Sue Murpy, 2003) เนื้องอกเต้านมอาจเป็นได้ทั้งเนื้องอกชนิดไม่รุนแรง (benign) หรือเป็นมะเร็ง (malignant) โอกาสที่เนื้องอกเต้านมที่พบจะเป็นมะเร็งอยู่ที่ 50% สุนัขที่ยังไม่ได้รับการทำหมันจะมีโอกาสพบเนื้องอกเต้านมมากกว่าสุนัขที่ทำหมันแล้ว และยังมีการศึกษาว่าสุนัขที่ทำหมันก่อนวัยเจริญพันธุ์ (puberty) หรือก่อนจะเป็นสัดครั้งแรกจะมีโอกาสเกิดเนื้องอกเต้านมต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับสุนัขที่ทำหมันหลังจากนั้น (Schneider, 1969)
ปัจจัยความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกเต้านม ได้แก่
• ฮอร์โมน : ในการตั้งท้อง และการเป็นสัดในแต่ละครั้งจะทำให้มีการเจริญของเต้านม เนื่องจากระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเทอโรน ทำให้มีการแบ่งเซลล์ที่ผิดปกติ หรือการให้ยากลุ่ม Progestins จะเหนี่ยวนำให้เกิดเนื้องอกเต้านมได้
• อายุ : มักพบในสุนัขอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป โดยพบว่าช่วงอายุที่พบเนื้องอกเต้านมมากที่สุดจะอยู่ระหว่าง 9-11 ปี
• พันธุ์ : สุนัขแต่ละพันธุ์มีโอกาสเป็นเนื้องอกเต้านมได้เหมือนกัน ที่สามารถพบเจอได้บ่อย เช่น English Springer Spaniel, Cocker Spaniel, German Shepherd Dog, Miniature, Maltese, Chihuahua, Beagle, Dachshund, Yorkshire Terrier และ Bichon Frise
• ความอ้วน : มีความเป็นไปได้ว่าสุนัขที่อ้วนตั้งแต่อายุน้อยจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเนื้องอกเต้านม
อาการที่ตรวจพบคือ พบก้อนที่เต้านม อาจมีลักษณะขรุขระซึ่งสามารถคลำพบหรือเห็นได้ชัดเจน อาจพบเพียงก้อน เดียวหรือพบได้หลายก้อน สุนัขอาจไม่แสดงอาการอื่นให้เห็น หรือแสดงอาการเลียบริเวณเต้านมให้เห็น สุนัขบางตัวอาจพบเป็นแผลที่มีการติดเชื้อ หรือแผลเปิดหากมีก้อนเนื้องอกมานาน
การวินิจฉัยโรค ทำการซักประวัติถึงระยะเวลาที่เกิดเนื้องอกว่าโตเร็วหรือช้าเพียงใด ประวัติเกี่ยวกับการทำหมัน การได้รับยาฮอร์โมน ซักประวัติการป่วยอื่น ๆ และอาจตรวจเลือดเพื่อตรวจสุขภาพเพิ่มเติม เพราะสุนัขที่มีก้อนที่เต้านมส่วน ใหญ่จะมีอายุมาก คลำลักษณะของก้อนที่เต้านมและบันทึกตำแหน่งที่พบ ควรตรวจคลำต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้กับเต้านมว่ามีการโตขึ้นหรือไม่ เนื่องจากสุนัขที่เป็นมะเร็งเต้านมอาจจะพบว่าเซลล์มะเร็งมีการแพร่ไปยังปอดและต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เต้านมได้ และควรเอกซเรย์ช่องอกเพื่อดูการแพร่กระจายของเนื้องอกไปยังปอดและอวัยวะอื่น ๆ ด้วย
นอกจากนี้ควรมีการจำแนกระดับความรุนแรงของเนื้องอกที่เต้านมเพื่อพยากรณ์โรค โดยการจำแนกระดับความรุนแรงของเนื้องอกเต้านมในสุนัขจะใช้ตามหลักการขององค์การอนามัยโลก (WHO-TNM system) ในส่วนของการวินิจฉัยชนิดของเนื้องอกอาจทำโดยการเก็บตัวอย่างด้วยเข็มฉีดยาหรือ fine-needle aspiration (FNA) จากก้อนเนื้องอก หรือทำการผ่าตัดก้อนเนื้องอก (biopsy) และส่งตรวจทางพยาธิวิทยา
การรักษาด้วยการผ่าตัดเป็นวิธีหลักในการรักษา และเพื่อเป็นการวินิจฉัยชนิดของก้อนเนื้องอกเต้านม โดยมีเป้าหมายเพื่อยืดระยะเวลาในการดำรงชีวิต เพิ่มคุณภาพชีวิตสุนัข ลดการแพร่กระจายของเนื้องอกและลดการอักเสบของก้อนเนื้องอกเต้านมที่จะเกิดขึ้น ซึ่งประเภทการผ่าตัดก้อนเนื้องอกเต้านมจะขึ้นอยู่กับขนาดก้อนของเต้านม การยึดติดกันของก้อนกับกล้ามเนื้อ การแพร่กระจายของก้อนเนื้อไปยังต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง และหลังจากการผ่าตัดแล้วยังมีการแนะนำให้ใช้การรักษาโดยวิธีเคมีบำบัดเพิ่มเติมในสุนัขที่เป็นมะเร็งเต้านม
นี่เป็นส่วนหนึ่งของบทความเท่านั้น อ่านบทความฉบับเต็มพร้อมหัวข้อเรื่อง ภาวะคลอดยาก (Dystocia) และ เนื้องอกอัณฑะ ต่อได้ที่ : https://readvpn.com/article/detail/1183
บทความโดย : สพ.ญ.รยา ตรีเจริญ
สำหรับคุณหมอสัตวแพทย์ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก
ตอนนี้ทาง VPN มีโปรโมชั่นน่าสนใจอยู่นะ
💙 อ่านออนไลน์ จ่ายถูกกว่า -
สำหรับสัตวแพทย์ท่านที่สมัครสมาชิกแบบอ่านออนไลน์ (ไม่รับหนังสือ) จ่ายเพียง 1,500 บาท/ปี เท่านั้น และยังสามารถทำ CE online ในเว็ปไซต์ได้ตามปกติ
💙 อ่านจากเล่ม เน้นสะสม -
สำหรับท่านที่สมัคร/ต่ออายุสมาชิกแบบรับหนังสือ (สามารถใช้งานเว็ปไซต์และทำ CE online ได้ด้วย)
📍 ได้ทำ CE online มากกว่า 40 คะแนน/ปี
📍 ดาวโหลด E-book ไปอ่านได้
📍 ใช้งานเว็ปไซต์ได้เต็มรูปแบบ
📍 E-learning online course
ดูรายละเอียดแพคเกจ
และสมัครออนไลน์ด้วยตัวเองได้ที่ https://www.readvpn.com/register
หรือสอบถามเพิ่มเติม
add Line :