05/09/2022
Lucanus maculifemoratus maculifemoratus
ด้วงคีมก้ามปูญี่ปุ่น
ขนาดตัวโชว์ : 54 mm.
วันนี้จะมาแนะนำด้วงคีมของต่างประเทศกันบ้างครับ เเละเจ้าตัวนี้ก็คือ ด้วงคีมก้ามปูญี่ปุ่น🇯🇵 เป็นหนึ่งในด้วงคีมตัวนึงที่อยู่อันดับท็อปๆในใจผมเลยครับ (แค่มันเป็นก้ามปู ผมก็ชอบละครับ 555) ส่วนตัวผมชอบด้วงคีมก้ามปูมากกก แต่ก้ามปูไทย ตัวเมียหายากเหลือเกิน จึงไม่มีโอกาสได้ทดลองเพาะก้ามปูไทยสักที ถ้าท่านใดเจอด้วงคีมก้ามปูของไทย เป็นก้ามปูอะไรก็ได้ ถ้าครบคู่ ผู้-เมีย ทักมาได้นะครับ ผมรับหมดเลย
ลักษณะโดยทั่วไปของด้วงคีมชนิดนี้ จากที่ผมสังเกต มีความคล้ายคลึงกับด้วงคีมก้ามปูขนของไทยเราครับ มีนิสัยไม่ดุร้าย แต่จะชอบแยกเขี้ยว และยกตัวขึ้นสูงทุกครั้งที่ถูกรบกวน หนีบเจ็บไหม ตอบไม่ได้เลยครับ เพราะน้องไม่เคยหนีบ ผมเอานิ้วแหย่ไปตรงเขี้ยวที่น้องกางแล้วครับ เพราะชอบจัดอันดับด้วงคีมที่หนีบเจ็บที่สุดให้ตัวเอง (ซาดิสม์😂) แต่น้องก็ไม่เคยหนีบผมเลยสักครั้ง เวลาโดนรบกวน จะยืดขาจนสุด เเละเงยหน้า พร้อมกับสั่นหนวดใส่สิ่งที่รบกวน ตอบสนองกับสิ่งเร้าค่อนข้างเร็ว แต่ไม่ทำร้ายผมครับ สามารถพบด้วงคีมชนิดนี้ได้ในทุกๆเดือนพฤษภาคม-เดือนสิงหาคมของทุกปีในประเทศญี่ปุ่น อีกสิ่งที่น่าสนใจของด้วงชนิดนี้คือมีฟอร์มคีมถึงสามฟอร์มเลยครับ ได้แก่ normal, fuji และ ezo (ตัวโชว์ของผมเป็นฟอร์ม fuji ครับ)
ในส่วนการเพาะเลี้ยง (อาจจะยาวนิดนึงนะครับ ขออภัยในส่วนนี้ด้วย) ด้วงคีมชนิดนี้มีระยะพักตัวอยู่ที่ 8-10 เดือนครับ จะขอแจ้งให้ทราบก่อนว่า ปัจจุบันนี้ ผมสามารถเพาะด้วงคีมชนิดนี้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ แต่ผมยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากผมได้แต่ไข่ ยังไม่พบตัวอ่อนนะครับ ก่อนอื่นเลย ต้องขอขอบคุณเหล่าอาจารย์ของผมที่ปาข้อมูล และคอยโค้ชให้ตลอดการเพาะครับ ขอขอบคุณพี่น็อต Hexarthrius-project.TH , พี่จักร JK-Beetle, พี่เจJPAN Heracules และ Thank you for my Japanese breeder friend, Shuhei สำหรับข้อมูลต่างๆที่ปามาให้ และกำลังใจตลอดการเพาะครับ
มาเข้าเรื่องการเพาะกันเลยครับ จะขอแจ้งให้ทราบอีกเรื่องว่า ที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อจากนี้ คือการทดลอง การลองผิดลองถูกของตัวผมเอง ไม่มีเจตนาจะกล่าวอ้างว่าทำแบบนี้ถูก หรือของนักเพาะท่านอื่นผิดแต่อย่างใด แค่ตั้งใจอยากจะแชร์วิธีของผมที่ได้ทดลองเพาะด้วงคีมชนิดนี้ครับ ก่อนอื่นเลย สำหรับข้อมูลในการเพาะด้วงคีมก้ามปูในไทย ผมหาไม่ได้เลยครับ ไม่ทราบว่ามันมีน้อยมากหรือว่ามันไม่มี วิธีที่ผมเพาะ จึงเป็นข้อมูลจากต่างประเทศทั้งหมดที่เหล่าอาจารย์ช่วยกันแปะมาให้ผมอ่าน และผมก็ทำตามเขาครับ ในส่วนการจัดถังเพาะ ด้วงคีมก้ามปูส่วนมาก จะไข่ในวัสดุรองพื้น (แมท) ล้วนๆเลยครับ สามารถจัดถังเพาะแบบกว่างได้เลย ด้วงตัวเมียจะวางไข่ในแมทที่มีลักษณะค่อนข้างชื้น และเละ ในบางท่านจะใช้แมทกว่างในการเพาะครับ (แมทกว่างต่างประเทศจะไม่มีส่วนผสมของปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์) ผมใช้ถังเพาะขนาด 10 ลิตร เน้นความสูง ชั้นล่างสุดอัดแน่นให้สูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. ตัวเมียจะวางไข่ในชั้นนี้ครับ และชั้นถัดมาก็โรยแมทกลบ กดเบาๆ พอแน่นๆ ประมาณ 5 ซม. จากนั้นปล่อยตัวเมียลงไปได้เลยครับ
ส่วนตัวผมมองว่า สำหรับด้วงคีมก้ามปู สำคัญสุดคืออุณหภูมิที่ต้องเย็นครับ จำเป็นต้องมีตู้คุมอุณหภูมิครับ โดยตอนแรก ผมใส่ถังเพาะไปในตู้คุมอุณหภูมิที่ setไว้ 20-22 องศาเซลเซียส เพราะผมเลี้ยงด้วงคีมชนิดอื่นๆด้วย เลยตั้งไว้แค่เท่านี้ครับ ตลอดเวลา7วัน สังเกตเห็นตัวเมียไม่ยอมมุดแมทเลยครับ เดินวนบนแมท พยายามตะกุย ผมจึงตัดสินใจซื้อตู้แช่ขนาดเล็กเพิ่มอีกตู้ และ set อุณหภูมิที่ 16-18 องศาเซลเซียส ากนั้นตัวเมียก็มุดลงแมทไปเป็นปกติครับ ผมทิ้งไว้ 2 อาทิตย์และทำการรื้อไข่ดู ปรากฎว่าพบไข่จำนวน 6 ฟองครับ แต่ผมรู้สึกว่า น่าจะมีอะไรผิดพลาด เพราะระยะเวลา2อาทิตย์ จากข้อมูลที่อ่านมา มันควรได้มากกว่านั้น ผมจึงทดลองเอาแมทที่จัดถังเพาะ ผสมดินดำ ในอัตราส่วน ดินดำ ต่อ แมท 50-50 เนื่องจากนักเพาะชาวต่างชาติบางท่านทำแบบนี้ และทิ้งไว้อีกสองอาทิตย์ พอเทออกมา พบว่ามีไข่เพิ่มมาอีก 18 ฟองครับ แต่ไข่ 6 ฟองแรก ฝ่อทุกฟองเลยครับ ไม่มีฟองไหนฟักออกมา🥲 ผมจึงทำการแยกไข่ และเอาแมทอัดลงถังเหมือนเดิม ตอนนี้ตัวเมียยังแข็งแรงอยู่ คิดว่าน่าจะยังพอได้ไข่เพิ่มอีกพอสมควรครับ ตัวเมียตัวนี้เป็นตัวป่า แต่เพื่อความชัวร์ ก่อนลงเพาะ ผมได้จับตัวผู้และตัวเมียขังรวมกันเป็นเวลา 5 วัน สังเกตเห็นตัวผู้ขี่ตัวเมียตั้งแต่วันที่สองแล้วครับ แมทที่ใช้เพาะ ผมใช้แมท MD kuwakata mat สนใจติดต่อได้ที่เพจ JPAN Heracules ผสมกับ EL mat pro ของ Siam beetle หรือ สวนสัตว์แมลงสยามครับในอัตราส่วน 50-50 สรุปให้ไม่งงก็คือ ถังเพาะผมใช้ 3 อย่าง ในอัตราส่วน 1:1:2 ได้แก่ MD 1 ส่วน, El mat pro 1 ส่วน และ ดินดำ 2 ส่วนครับ ย้ำว่านี่เป็นการเก็บข้อมูลจากการทดลองของตัวผมเอง มีเจตนาอยากจะแชร์วิธีเพาะด้วงคีมชนิดนี้ในแบบของผม หากข้อมูลส่วนไหนผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หากพี่ๆท่านใดมีคำแนะนำ สามารถติชม หรือแนะนำได้ครับ ผมน้อมรับทุกคำแนะนำไปพัฒนาการเลี้ยงต่อครับผม ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ถึงบรรทัดนี้ และขอโทษที่เขียนยาวมากครับ ถ้ามีไข่สักฟองฟัก แล้วผมได้หนอน จะมาอัพเดทอีกทีนะครับ ยังไง รบกวนติดตามกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ^^
(ปล.ในส่วนนี้ไม่ได้มีสาระอะไรมากครับ ไม่เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงหรือเพาะแต่อย่างใด ผมแค่อยากเล่า คันปาก 555) เนื่องจากผมได้มีโอกาสไปฝึกงานภาคฤดูร้อน ในจังหวัด Kanagawa, ประเทศญี่ปุ่น จึงถือเป็นอะไรที่พลาดไม่ได้เลยครับกับการไปเยี่ยมชมร้านขายด้วงในประเทศญี่ปุ่น ไปถึงสวรรค์ของคนรักด้วงทั้งที ก็ต้องเข้าไปถึงที่ให้ได้ครับ (เก็บไปได้ทั้งหมด 11 ร้าน😂) ก็ ได้ของเล่นติดมือมาเพียบเลย เจ้าตัวนี้ก็เป็น1ในของเล่นที่ผมได้ติดมือกลับมา ร้านด้วงในญี่ปุ่นเป็นอะไรที่อลังการมากครับ อุปกรณ์ทุกอย่างครบจบในทุกๆร้านเลย มีอุปกรณ์แปลกๆให้เล่นเยอะแยะ และทุกๆร้าน จะมีคนแน่นร้านเกือบจะตลอดเวลา ยิ่งเป็นวันหยุดด้วย เด็กๆรุมแน่นร้าน เป็นถาพที่ผมเห็นแล้วก็อมยิ้ม ผู้ปกครองพาเด็กๆมาซื้อด้วง เห็นแล้วนึกถึงตัวเองสมัยเด็กๆที่ลากแม่ไปซื้อกว่างห้าเขาที่จตุจักร ด้วงในประเทศญี่ปุ่นเป็นที่นิยมอย่างมากครับ เหมือนเขาปลูกฝังกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก มันเป็นประเพณี วัฒนธรรม และการแข่งขัน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมประเทศญี่ปุ่นจึงได้รับขนานามว่าเป็นสวรรค์ของคนรักด้วง มีด้วงที่หายากหลายๆชนิดจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกันที่นี่ ได้เห็นและเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างในการมาญี่ปุ่นครั้งนี้มากๆ ได้รู้ถึงบางอย่างที่ตัวผมเองเข้าใจผิดมาตลอดกับด้วง ได้เห็นวิธีการ เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการเลี้ยง หากพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆที่รักในด้วงท่านใดได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น อย่าลืมแวะเข้าไปเยี่ยมชมร้านขายด้วงใกล้ๆท่านนะครับ ก็ ขอบคุณที่อดทนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะครับ ก็อย่างที่บอก มันไม่มีอะไรเลยครับ ผมแค่อยากเล่า 55555