17/10/2024
ชวนทำความเข้าใจ ที่สัตว์เลี้ยงเปลี่ยนไป
อาจเป็นเพราะความเครียดและความกังวล
ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงของเรา แบ่งได้ออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ
(1)ลักษณะทางพันธุกรรม
(2)ประสบการณ์ที่เรียนรู้มาก่อนหน้า และ
(3)สถานการณ์ที่สัตว์เลี้ยงกำลังเผชิญในขณะนั้น
โดยทั้ง 3 ปัจจัยนี้ ทำงานร่วมกันโดยไม่สามารถแบ่งแยกออกจากกันได้
ปัญหาพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่เราจะพบบ่อยของสัตว์เลี้ยง เช่น ความกลัวหรือกังวลเมื่อต้องอยู่ลำพัง (separation anxiety) และ ความกลัวต่อเสียงที่ดังหรือเสียงผิดปกติ (noise phobias) เหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่มักถูกมองข้ามไปที่ส่งผลให้สัตว์เลี้ยงเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น อาเจียน ท้องเสียและโรคผิวหนัง เพราะพวกเขาต้องเจอกับความเครียดและกังวลซ้ำๆ
✅ทำความรู้จัก: สมองที่ทำงานสัมพันธ์กับพฤติกรรม
สมอง คือ ระบบประสาทส่วนกลางที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางพฤติกรรม ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ
(1) cerebrum เป็นสมองที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมากที่สุด โดยมี cerebral cortex เป็นส่วนสำคัญ
(2) cerebellum เป็นสมองส่วนที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่และทรงตัว
(3) brain stem เป็นสมองส่วนที่เกี่ยวกับการรักษาสมดุลของร่างกาย
Cerebral cortex เป็นส่วนที่ใช้ในการคิดเชิงตรรกะและตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ และเป็นส่วนที่สำคัญในการพัฒนาเรียนรู้ของสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ ในสมองส่วน cerebrum เอง ยังมีส่วนที่ทำงานตรงข้ามกับ cerebral cortex (the thinking logical brain) คือ 📍สมองส่วน limbic system (the emotional brain) ซึ่งสมองส่วนนี้ทำงานเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก โดยสมองส่วน limbic นี้จะถูกกระตุ้นจากประสบการณ์ที่มีความรุนแรงต่อจิตใจของสัตว์เลี้ยง เช่น กลัวหรือเครียด โดยเมื่อพบสิ่งเร้าที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกมากเกินกว่าที่สัตว์เลี้ยงจะควบคุมได้ การทำงานของ limbic ก็จะอยู่เหนือการตัดสินใจด้วยเหตุผลของ cerebral cortex ไป สัตว์เลี้ยงจะแสดงพฤติกรรมผิดปกติในลักษณะของ การไม่ฟังคำสั่ง หรือ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง ซึ่งหากปล่อยให้ประสบการณ์ด้านลบนี้ดำเนินต่อไป จะส่งผลเสียต่อพฤติกรรมในระยะยาว
✅ทำความรู้จัก: ความแตกต่างระหว่าง Anxiety, Fears และ Phobias
โดยมากเรามักจะใช้คำว่า Anxiety (ความกังวล) และ Fears (ความกลัว) ในความหมายคล้ายกันและแทนกันไปมา แต่จริงๆแล้วพวกมันแตกต่างกัน
📍Fears จะเจาะจงกับพฤติกรรมที่ต้องการหลีกเลี่ยงหรือหนีจากสถานกาณ์ต่างๆที่ทำให้กลัว ในขณะที่
📍Anxiety จะเป็นผลที่ตามมาจากการที่สัตว์เลี้ยงได้รับสิ่งเร้าที่ทำให้กลัวแล้ว และพวกเขาไม่สามารถควบคุมหรือหลีกเลี่ยงสิ่งเร้านั้นได้(ในมุมมองของสัตว์เลี้ยง) ทั้ง Fears และ Anxiety ยังสามารถแก้ไขปรับปรุงให้กลับมาเป็นการตอบสนองที่ปกติได้
📍Phobias (ความกลัวที่ผิดปกติ) นั้น ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว
✅ทำความรู้จัก: ฮอร์โมนความกลัวและความกังวล
ฮอร์โมนในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความกลัวและความกังวลของสัตว์เลี้ยง ประกอบด้วย serotonin, noradrenaline, dopamine และ GABA โดยเฉพาะ 📍serotonin ถือเป็นสารสื่อประสาทที่มีความเกี่ยวข้องกับความกลัวและกังวลมากที่สุด จึงมักพบว่าการรักษาสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาด้านพฤติกรรมจะได้รับยาที่ช่วยปรับสารสื่อประสาทดังกล่าว
✅ทำความรู้จัก: อาการเมื่อสัตว์เลี้ยงเครียดหรือกังวล
ความเครียดและความกังวล ส่งผลต่อความผิดปกติทางด้านพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงได้หลายรูปแบบ เช่น
• ความอยากอาหาร เปลี่ยนไปได้ทั้งมาก หรือ น้อยกว่าปกติ หรืออาจพบสัตว์เลี้ยงกินสิ่งขับถ่ายของตัวเอง
• เลียหรือแต่งตัว โดยมากจะพบว่าเลียตัวเองมากกว่าปกติ
• การขับถ่าย พบความผิดปกติได้ทั้งการขับปัสสาวะและอุจจาระ
• การตอบสนองต่อสังคม เช่น การเห่าหอนที่ผิดปกติ การหลีกเลี่ยงหรือตื่นเต้นในการเข้าสังคมมากเกินพอดี
• การเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมทางกาย โดยพบได้ทั้งมากขึ้น หรือ น้อยลงกว่าปกติ
✅ทำความรู้จัก: ผลของความเครียดที่กระทบต่อสุขภาพใจ(mental) และกาย(physical)
ในสุนัขและแมว การได้รับประสบการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดเล็กๆน้อยๆ ส่งผลดีต่อพวกเขาในการกระตุ้นการพัฒนา ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการกับปัญหาและความเครียดต่างๆได้ดีขึ้นในอนาคต แต่หากความเครียดนั้นมากเกินกว่าที่พวกเขาจะจัดการได้ แม้เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่หรืออาจต่อเนื่องเป็นเวลานานก็สามารถส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของสัตว์เลี้ยงได้ในหลายๆส่วนเช่น
(1)พฤติกรรม
(2)ฮอร์โมน
(3)ระบบภูมิคุ้มกัน
เพราะร่างกายตอบสนองต่อความเครียดที่มากระตุ้นนั้น โดยการตอบสนองจะแตกต่างกันไปในสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว รวมทั้งสายพันธุ์ ประสบการณ์ อายุ เพศ สุขภาพและบุคลิกภาพเฉพาะตัวของพวกเขาเอง
✅ทำความรู้จัก: ผลของความเครียดและกังวลที่กระทบต่อสุขภาพสุนัข
ในสุนัขที่พบปัญหาความเครียดต่อเนื่อง พบว่า สุนัขถูกกระตุ้น HPA (Hypothalamic-Pituitary-Adrenal) Axis เป็นเวลานาน ส่งผลเพิ่มปริมาณของฮอร์โมน cortisol และกดการทำงานของ catecholamine system ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกรบกวน นำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากความเครียดได้ โดยในสุนัขมักจะพบความผิดปกติที่เป็น stress-related diseases คือ
• ปัญหาโรคผิวหนัง Dermatological conditions
• ปัญหาระบบย่อยอาหาร Gastrointestinal diseases
• ปัญหาระบบหายใจ และ การทำงานของหัวใจ Respiratory and Cardiac conditions
• ปัญหาด้านพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ Behavioral disorders
• อายุขัยของสุนัขสั้นลง Shortened Lifespan
✅ทำความรู้จัก: ผลของความเครียดและกังวลที่กระทบต่อสุขภาพแมว
ในแมวที่พบปัญหาขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบไม่ทราบสาเหตุ (Feline Idiopathic Cystitis: FIC) มักเกิดจากความเครียดที่รบกวนการทำงานของทางเดินปัสสาวะ อีกทั้งยังพบว่า แมวที่อยู่ในภาวะเครียดจะมีความผิดปกติของร่างกายอื่นๆ เช่น
• มีปัญหาการเกิดซ้ำของ FIC อย่างมีนัยสำคัญ
• ปัญหาโรคทางเดินหายใจ Respiratory diseases
• พฤติกรรมหวาดกลัว fearfulness
• พฤติกรรมผิดปกติด้านระบบประสาทต่างๆ
• ปัญหา inflammatory bowel disease
• พฤติกรรมก้าวร้าว aggressive
การปล่อยให้สุนัขและแมวอยู่ในภาวะเครียดและกังวลเป็นเวลานาน จะทำให้การรักษายุ่งยากและมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เจ้าของจึงควรพาสัตว์เลี้ยงเข้ารับการรักษากับสัตวแพทย์แต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ความรู้สึกด้านลบนั้นทำลายสุขภาพของพวกเขา และสร้างพฤติกรรมไม่พึงประสงค์แบบถาวร
🟪อ้างอิงข้อมูลจาก
บทความของ World Small Animal Veterinary Association World Congress Proceedings, 2014 ; เรื่อง Stress and Anxiety-How Do They Impact the Pet? เขียนโดย Kersti Seksel, BVSc (Hons) และคณะ
KALM อาหารเสริมที่ช่วยลดเครียดและคลายกังวล
สำหรับสุนัขและแมว อายุ 2 เดือนขึ้นไป
💊สารสกัดจากโปรตีนเคซีน และ กรดอะมิโน
💊ออกฤทธิ์ไว และ ไม่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม
💊เสริมเบต้ากลูแคน ช่วยการทำงานของภูมิคุ้มกัน
💊แคปซูลเล็กป้อนง่าย บรรจุในแผงกันความชื้น
💊สามารถแกะผงด้านในออกมาโรยผสมอาหารได้